เมื่อมนุษย์เงินเดือนต้องทำงานเกือบทุกวัน วันละหลายชั่วโมง ความเมื่อยล้า อ่อนแรง ห่อเหี่ยว ย่อท้อ ย่อมเกิดขึ้นเป็นธรรมดาและพานให้ไม่อยากมาทำงาน หรือทำงานแล้วเกิดการผิดพลาดบ่อย สมองไม่ปลอดโปร่ง ตื้อตันคิดงานไม่ออก ดังนั้นก่อนสายเกินแก้มาเพิ่มแรงกระตุ้นเติม พลังในการทำงานกันดีกว่า 

• เปลี่ยนแปลงบ้าง

        คนเราเมื่อต้องเจออะไรซ้ำาๆ ก็ทำาให้เกิดการ เบื่อหน่ายได้ เช่นเดียวกับที่ทำางาน โต๊ะทำางานถ้ารก ไร้ระเบียบ หรือเห็นแบบเดิมซ้ำาทุกวันก็พานให้เกิดไม่มี แรงบันดาลใจในการทำางานได้ ดังนั้น ก็ควรรู้จักปรับเปลี่ยน ย้ายบ้าง เช่น เปลี่ยนตำาแหน่งการวางคอมพิวเตอร์ แฟ้มเอกสาร กล่องใส่ของจุกจิก กล่องใส่เครื่องเขียน และแม้แต่การหาต้นไม้ เล็กๆ อย่าง ต้นกระบองเพชรใส่กระถางใบจิ๋วมาวางบนโต๊ะ เพื่อเป็นที่พักสายตายามเมื่อยล้า หรือใครอยากได้สีสัน ความหอมสดชื่นในการทำางานก็เอาดอกไม้ใส่แจกัน เล็กๆ หรือแก้วทรงสวยมาวางบนโต๊ะก็ได้ 

• กองทัพต้องเดินด้วยท้อง

        ทุกๆ เช้าของวันทำางานไม่ควรลืมกิน อาหาร อย่างน้อยหาอะไรรองท้องบ้าง เพราะอย่างที่รู้กันว่ามื้อเช้าเป็นมื้อที่สำาคัญ ทำาให้มีแรง มีพลังในการทำางานได้ตลอด ทั้งวัน สมองโลดแล่นปลอดโปร่ง อาหาร มื้อเช้าอาจจะเป็นเมนูง่ายๆ เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก ไส้กรอก ไข่ดาว ขนมปัง นมสดกับซีเรียล หรืออาจจัดหนักด้วยข้าวแกง ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ใครไม่อยากยุ่งยากทำาอาหารในตอนเช้า หรือต้องไปหาซื้อข้างทาง ก็จัดเตรียมซื้อ และปรุงให้เสร็จก่อนวันทำางานแล้วเก็บ แช่ตู้เย็นไว้ ตอนเช้าค่อยอุ่นกิน ตบท้ายด้วย เครื่องดื่มแก้วโปรด หรือกินผลไม้ที่ชอบ สักชิ้นสองชิ้นก็ได้ และถ้าตอนเช้าไม่มีเวลา จริงๆ ก็ซื้อซีเรียลแบบแท่ง ผลไม้ที่มีเส้นใยสูง อย่างแอปเปิล กล้วย ติดบ้านไว้บ้าง แล้ว พกไว้กินระหว่างทาง บนรถ ที่ทำางาน หรือ กินระหว่างมื้อก็ได้ 

• ทำงานทั้งวันย่อมเกิดการเมื่อยล้า

        ดังนั้น ระหว่างวัน ช่วงเวลาว่างก็มาขจัด อาการเมื่อยล้าต่างๆ ทั้งปวดไหล่ เมื่อยคอ ปวดขา ด้วยการขยับยืดเส้นยืดสาย ลุกออก ไปเดินบ้าง สูดหายใจลึกๆ ช่วยให้สมอง ปลอดโปร่ง เลือดลมไหลเวียนดี หรือใครพอ เล่นโยคะได้ก็นำาท่าง่ายๆ มาบริหารกล้ามเนื้อ ก็ได้ หรือหลังเลิกงานยังไม่อยากฝ่ารถติด กลับบ้านก็หากิจกรรมทำากับเพื่อนๆ ด้วย การเล่นกีฬา ชวนกันไปหาร้านนวดแก้เมื่อย หรือแม้แต่การเดินช็อปปิ้ง ดูของโน่นนั่นนี่ เพลินๆ ก็ได้ 

• อารมณ์ดียิ้มแย้มแจ่มใส

        ไม่ว่าระหว่างวันในการทำางานจะเจอ เรื่องดีไม่ดีอย่างไร ต้องแก้งานใหม่สักกี่รอบ ถูกตำาหนิเรื่องงานมากแค่ไหน หรือนัดลูกค้า แล้วไปไม่ทัน ไปเลทจนทำาให้ลูกค้าไม่พอใจ คุณก็ต้องยิ้มสู้ คิดในแง่บวก ยอมรับความ ผิดพลาดที่เกิดขึ้น และไม่นำาเรื่องที่ผ่านมา มาทำาร้ายตนเอง แต่ให้จำาเป็นบทเรียน แล้ว นำามาปรับปรุงแก้ไขใหม่ ก่อนลงมือทำาอะไร ก็ต้องคิดวางแผนให้รอบคอบ เมื่อเกิดความ ย่อท้อก็หัวเราะออกมา เพื่อปลดปล่อยให้ใจ โล่งสบาย

• เมื่อทำดีก็ต้องได้รับคำชม

        แม้คนอื่นไม่ชมแต่คุณชมตัวเองได้ ซึ่งสำาคัญมาก เพราะเป็นเหมือนน้ำาหล่อเลี้ยงให้จิตใจเข้มแข็ง ให้ร่างกายรู้จัก ยืนหยัดเพื่อต่อสู้ในเรื่องต่อๆ ไป ดังนั้น เมื่อคุณทำาอะไรประสบ ความสำาเร็จ ชิ้นงานออกมาดีตามเป้าหมาย ไม่ว่างานนั้นจะเล็กหรือ ใหญ่คุณก็ต้องรู้จักให้คำาชมแก่ตัวเอง แม้คนอื่นจะเห็นเป็นเรื่องเล็ก ธรรมดา ใครก็ทำาได้ คำาชมง่าายๆ ที่คุณสามารถพูดกับตัวเอง เช่น ขอบคุณตัวเราที่ไม่ย่อท้อ ขอบคุณจิตใจที่เข้มแข็ง ขอบคุณสมองที่คอย เสนอแต่สิ่งดีๆ ขอบคุณความคิดสร้างสรรค์ ขอบคุณสองมือที่ช่วยกัน รังสรรค์งาน ขอบคุณลมหายใจที่ทำาให้มีวันใหม่เสมอ เมื่อกล่าวคำาชมกับตัว เองแล้ว ก็ไม่ควรลืมกล่าวชมเพื่อนร่วมงาน หรือคนอื่นเมื่อเขาทำาอะไร สำาเร็จ ให้เขามีความสุข ชื่นใจว่ายังมีคุณที่เห็นคุณค่าในตัวเขา เป็นการ สานสัมพันธ์และสร้างมิตรภาพที่ดีได้อีกทางหนึ่ง