ถ้าการเติบโตมันลื่นปื๊ด แบบเดินผ่านมาได้แบบไม่สะดุดอะไรเลย รับรองว่าชีวิตคุณคงไม่มีโอกาสได้ประสบความสำเร็จอะไรอย่างแน่นอน กว่าจะไปถึงวันนั้นของชีวิตได้ คุณต้องผ่านร้อนผ่านหนาวให้ครบก่อน จะได้มีเกราะป้องกันความเจ้าเล่ห์ของคนได้ทุกประเภท และนี่แหละคือสิ่งที่คุณจะเจอระหว่างทางก่อนจะประสบความสำเร็จ

     1. รู้ตัวอีกทีเธอก็กลายเป็นสาวสตรอง ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง แถมยังจะแยกตัวออกจากกลุ่มเพื่อนอีก

ยิ่งโตขึ้นคุณก็ยิ่งไม่ต้องพึ่งใคร เกรงใจ ไม่อยากเป็นปัญหา แถมพอมีใครยื่นมือเข้ามาช่วยคุณก็เซย์โน กะพริบตาปริบๆ ยิ้มหวานๆ แล้วบอกว่า “ไม่เป็นไรเราทำเองได้” ถึงมันจะทำให้คุณรู้สึกพราวด์ซะจริงๆ  แต่หลายๆ ครั้งมั้นก็ทำให้คุณรู้สึกเหงาและห่างเหินจากเพื่อนๆ เหลือเกิน

     2. เธอเริ่มหาเรื่องทะเลาะกับตัวเองอยู่ตลอดเวลา!

คุณรู้ตัวว่ามีสงครามดุเดือดระหว่างตัวคุณเองที่ต้องการการจัดการอยู่ ทั้งเรื่องกังวลสารพัด ไหนจะอารมณ์เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอย่างกับเป็นไบโพล่าร์ ไหนจะระแวงแฟนหนุ่มอีก โอย..ขยะทั้งนั้นที่อยู่ในหัวเนี่ย! แต่ทั้งสวยทั้งฉลาดขนาดนี้ คุณรู้ดีว่าตอนไหน ปัญหาอะไรจะเกิดขึ้นแล้วจะต้องจัดการมันยังไงให้อยู่หมัด

     3. เธอเริ่มคันมืออยากจะอันเฟรนด์เพื่อนที่ไม่ค่อยจะเหมือนเพื่อนสักเท่าไหร่

ยิ่งนานวันคุณก็เริ่มรู้สึกว่าท่ามกลางคนมากมาย มันมีคนไม่กี่คนหรอกที่เป็นเพื่อนแท้ คุณเลยคอยตั้งคำถามให้กับความสัมพันธ์หลายๆ อย่าง เริ่มระแวงและว่าคนไหนเข้ามาแบบซื่อๆ คนไหนเข้ามาทำเนียนอยากได้ผลประโยชน์ คุณอาจจะต้องรู้สึกผิดหวัง รู้สึกผิด รู้สึกเศร้ากับการที่จะต้องเสียเพื่อนรักไป แต่คุณก็ใจกล้าพอที่จะเดินออกมาจากความสัมพันธ์แย่ๆ ที่คอยทำร้ายความรู้สึกของคุณ

     4. คุณเชื่อใจคนยากมาก 

นอกจากคุณจะจู้จี้กับการเลือกเพื่อนแล้ว คุณก็ยังจะขยาดสุดๆ กับคำพูดตอแหลๆ ฟังแล้วมันขนลุก คุณเหนื่อยกับคนที่คอยมาทำให้คุณต้องผิดหวัง บ้างก็หักหลังและผิดสัญญาคุณอีก แต่มันก็ทำให้คุณสตรอง รู้หมดว่าโลกมันไม่ได้สวยอย่างที่คิด มันทำให้เวลาคุณถูกชะตากับใครคุณก็จะให้ใจหมดเลย ซื่อสัตย์ต่อคนๆ นั้น พร้อมทำทุกอย่างให้มีความสัมพันธ์ดีๆ

     5. คุณกลายเป็นเพื่อนกับความเศร้าไปซะแล้ว

พอโตแล้วคุณก็จะรู้ว่าคุณไม่สามารถยิ้มหน้าบานทุกๆ วันได้ คุณรับรู้ว่าบางวันคุณอาจจะต้องเสียน้ำตา ไอ้ความรู้สึกแย่ๆ แบบใจสลาย  สิ้นหวัง โทษตัวเอง อะไรๆ ที่มันดราม่าคุณผ่านมาจนโปรแล้ว คุณปลง เวลามีปัญหาเข้ามาคุณก็จะคิดว่ามันผ่านมาเดี๋ยวมันก็ผ่านไป แล้วก็กลับมาใช้ชีวิตชิคๆ ต่อแบบฟรีๆ

     6. คุณจะรู้สึกเสมอว่า 24 ขั่วโมงต่อวัน มันไม่พอ!!!

นี่ขนาดวันๆ นอนไม่ค่อยจะพอ ต้องมาหน้ามืดปั่นงานทั้งวันคุณก็ยังคิดว่าเวลามันไม่พอเอาซะเลย เวลาให้ตัวเองหรือให้คนในครอบครัวไม่ต้องพูดถึงนะ เพราะคุณจะต้องมีอะไรที่ต้องทำตลอดเวลาจนบางทีคุณก็กดดันตัวเอง แต่นี่แหละมันหมายความว่า คุณกำลังมีแรงผลักดันให้กระเถิบเข้าใกล้ความสำเร็จ ซึ่งมันดีสุดๆ ไปเลย

     7. คุณเรียนรู้ที่จะปล่อยว่างกับเรื่องที่คุณเคยทำผิดเอาไว้

มันง่ายมากเลยนะที่คุณจะโทษตัวเองกับการตัดสินพลาดๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า แรกๆ คุณอาจจะจมอยู่กับความเศร้านั้นเลย แต่พอโตขึ้นคุณก็เริ่มรู้และว่ามันไม่ทำให้อะไรดีขึ้น สิ่งที่คุณทำได้คือเดินหน้าแบบไม่เหยียบซ้ำรอยเดิม เท่านั้นเอง!!

     8. คุณแอบมีมุมหงอยๆ คิดถึงช่วงเวลาแฮปปี้ตอนเด็กๆ คิดถึงครอบครัวบ้าง

การเติบโตเป็นเส้นทางที่ไม่ได้สวยงาม คุณก็เลยแอบมีอารมณ์หงอยๆ นึกถึงตอนเด็กๆ ที่อะไรๆ ก็ถูกจัดให้เป็นตามแบบของมัน ไม่ต้องมีเรื่องให้กังวลใจ แถมการที่ต้องพึ่งตัวเอง หาเงินใช้เองมันไม่ใช่เรี่องง่ายๆ บางทีก็คิดว่าพ่อแม่หาเงินเลี้ยงดูเราให้โตขนาดนี้มาได้ยังไงนะ  ยิ่งคิดยิ่งคิดถึงครอบครัว แต่คุณก็รู้ตัวว่าคุณจะต้องผ่านปัญหาทุกอย่างไปได้ด้วยตัวของคุณเอง เพราะช่วงเวลานี้จะเป็นบทเรียนที่ดีมากสำหรับการเตรียมพร้อมความเป็นผู้ใหญ่ของคุณ

     9. คุณจะมีอาการระแวงอนาคตอยู่บ่อยๆ

ถึงคุณจะดูสตรองขนาดไหน แต่ข้างในคุณเหลวเป็นน้ำเลย อ่อนแอสุดๆ คุณจะคอยถามตัวเองว่าคุณต้องการอะไรจากชีวิตจริงๆ คุณเกิดมาเพื่ออะไร เพราะหลังจากเจอเรื่องไม่คาดคิดนับไม่ถ้วน คุณก็ไม่รู้หรอกว่าชีวิตจริงๆ มันจะต้องออกมาในรูปแบบไหน แต่ทุกอย่างมันมักจะมีเวลาของมัน ถึงแม้ตอนนี้มันอาจจะไม่เคลียร์ แต่คุณก็รู้ว่าสักวันทุกอย่างที่คุณทำจะสามารถทำให้คุณตอบคำถามได้เอง