Bangkok post> Jobs > Career guide

Baroctar บล็อกเกอร์สาวคนนี้ฝ่าทุกกระแสที่โลกบอกว่าต้องเป็น!

เบต้าร์ – ชนิตา กิจธุรกุล อายุ 26 ปี

แอบเอาเมคอัพแม่มาแต่งหน้านอน!

ด้วยความสบายๆ คุยง่ายของต้าร์ เธอเลยเป็นบล็อกเกอร์กึ่งยุคกลาง ประมาณว่าเริ่มต้นในการเขียนบล็อกมานานแล้วแต่ไม่ได้จริงจังมาก พอถึงวันหนึ่งที่ลุกขึ้นมาสาดไอเดียลงไป คนก็เริ่มจับตามองตามฟอลโลว์เพิ่มขึ้น “ต้องเท้าความก่อนว่าต้าร์ไม่มีระเบียบวินัยในการทำงาน ถ้านับจริงๆ ก็ทำมา 8-9 ปีแล้วนะคะ แต่ทำปีละ 1 คอนเทนท์ เพราะเราไม่ได้ตั้งใจ แล้วคำว่าบล็อกเกอร์ไม่ใช่เราเลย ต้าร์อยู่สายเบื้องหลัง เพราะจบวิทยุโทรทัศน์มาจากสวนสุนันทา ตอนที่เรียนก็จะมีเซ็กชั่นของตัวเอง ต้าร์จะเป็นช่างภาพ แบกกล้องกับขากล้องตลอดเวลา ไม่มีวันไหนที่คิดว่าจะมาเป็นบิวตี้ บล็อกเกอร์เลย กระทู้แรกที่ทำเป็นรีวิวเสื้อยืด แต่เราไม่ใช่คนสะสมนะคะ เราไปงาน Fat T-Shirt ซื้อ 20 กว่าตัว เป็นคนใช้เงินดะมาก ขนาดหาเงินไม่ได้เสื้อตัวละ 500 ก็ซื้อ ใช้ความชอบเป็นที่ตั้ง ต้องประกาศให้โลกรู้ ตอนนั้นดูทีวีแล้วเจอกับเว็บ Jeban เราเลยไปลงเรื่องตรงนั้น เมื่อก่อนจะต่อเน็ตนี่ต้องต่อสายแลน เราก็โทรไปองค์การโทรศัพท์ถามเค้าเลย หนูจะต่ออินเตอร์เน็ตยังไงคะ ต้าร์ก็ใช้มือถือโนเกีย N73 ถ่าย พ่อก็สปอยล์ด้วย เปลี่ยนมือถือให้ทุกสัปดาห์ จากนั้นก็ไปตั้งกระทู้ มีคนมาเม้นท์เยอะอยู่นะคะ”

รักการแต่งหน้ามาตั้งแต่เด็กๆ “ต้าร์ก็บริโภคทุกอย่าง เน็ตไอดอลยุคนั้น เราเป็นคนเสพย์ไม่ใช่คนผลิตสื่อ เราก็ชอบแต่งหน้า แม่ต้าร์เป็นนางงามเก่า ตู้เสื้อผ้าแม่จะอยู่ในห้องก็แอบคิดเอาเองว่าดีเหมือนกัน แต่งหน้านอนดีกว่า เราก็ฟาดบล็อกตาสีน้ำตาล คิดว่าเราจะสวย ความมโนของคนเราก็ทำให้รู้สึกว่าสวยจัง แล้วก็แต่งตามโบร์ชัวร์ของ MAC แล้วถ่ายรูปในมือถือ เอารูปลง รูปก็ไม่มีความเท่ากันทำเป็นกระทู้ทำให้เรียนรู้ว่าสนุกดีนะ คนสมัยนู้น 7-8 ปีที่แล้วไม่ค่อยแรง เลยไม่มีวิจารณ์แง่ลบเท่าไหร่”

 

เข้าสู่วงการนิตยสารเต็มตัว

เส้นทางชีวิตของต้าร์ก็ดูชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ อีกสเต็ป หลังจากเรียนจบเธอไปเป็นฟรีแลนซ์ทำคอนเสิร์ตอยู่แกรมมี่ แล้วก็ได้ทำนิตยสารหัวดังฝึกฝีมือการเขียนของตัวเองให้กล้าแกร่งขึ้น “มันมีจุดเปลี่ยนตอนที่อาจารย์ให้ทำธีซิสเป็นเล่มนิตยสาร เราก็ต้องหาต้นตอ ต้าร์ไปซื้อโปรแกรม InDesign เริ่มจากศูนย์ทำไม่เป็น กลายเป็นเราชอบทำหนังสือนี่ เพื่อนไปทำงานกองแฟชั่น เราก็ติดตลกว่าตำแหน่งว่างก็ชวนไปทำหน่อยนะ จากที่เคยทำคอนเสิร์ตไปจบกองตี 5 พอมาทำหนังสือแล้วรู้สึกสงบ เรานั่งคิดคอนเทนท์เงียบๆ เลยไปสมัครนิตยสารทำอยู่เกือบปีแล้วก็ออก คิดต่อว่าเราจะกลับไปทำหนังสือต่อดีมั้ย แต่ช่วงนั้นก็เริ่มเขียนบล็อกของตัวเอง มีคนมาสนใจเรามากขึ้นค่ะ”



เปิดบล็อกแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว

ต้าร์เล่าว่าก่อนจะเป็น www.baroctar.com เธอเคยเปิดใน Blogspot มาก่อนจากการกดอะไรมั่วๆ ไปเปิดบล็อกซะอย่างนั้น “เมื่อก่อนไม่มีโน้ตบุ๊ค แล้วเราไปยืมของเพื่อนมาใช้ ก็กดๆ จิ้มๆ ไปแบบรำคาญ สงสัยคงเป็นพรหมลิขิตมั้ง ไม่ได้ตั้งใจจะเปิดเว็บเลย ไม่มีในหัว เราแค่ใช้ต้นทุนจากความบังเอิญ แต่เราเป็นคนเละๆ เทะๆ ตอนช่วงที่ออกจากงานเราคิดว่าจะทำอะไรดี ก็เริ่มเขียนบล็อกไปเรื่อยๆ”

สิ่งทำให้คนจำต้าร์มากที่สุดคือความธรรมดาที่อินสไปร์ว่าใครก็ทรานส์ฟอร์มตัวเองได้ “ต้าร์เป็นคนหน้าโหล หน้าสแตนดาร์ด เลยเป็นคำถามที่เราชอบถามคนนู้นคนนี้ว่าทำไมชอบดูเรา เราไม่สวย เราไม่กล้าศัลยกรรม เรารักษาหน้าตัวเองให้สวยคงที่ไม่ได้ แต่ทุกคนก็บอกว่าเราเป็นตัวแทนของคนหน้าธรรมดา แต่เราเปลี่ยนมันได้ ขนาดหน้าจืดๆ ก็แต่งได้ แล้วเราเป็นคนที่แต่งแบบเว่อร์วัง พยายามจะฝรั่งตลอด จากตาตี่ๆ บางทีก็อยากเป็นเกาหลี มาดังสุดๆ ที่คนดูคลิปนึง 700,000 กว่า เพราะเป็น Before After แต่ที่คนพูดถึงมากที่สุดคือนาคีค่ะ! แต่งหน้าเป็นงู คนก็พูดกันแบบทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ที่เราเอาถุงซักผ้ามาทำเป็นเกล็ดงู เพราะหนูหาเน็ตคลุมหน้าไม่ได้ แล้วก็เรื่องแต่งหน้าเสริมดวง เพราะเราไปเจอคนพูดว่าเรามีกรรม หน้ามีสิว เราก็จะแต่งหน้าแก้กรรมเสริมดวง เริ่มจากเสริมดวงวันศุกร์ ปรากฏคนชอบเลยกลายเป็นซีรีส์มูเตรูมาจากที่เราอยากจจะประชด ปกติต้าร์ไม่ได้ดูดวงนะ แต่ไม่ได้ท้าทาย แค่เป็นคนไม่ชอบรู้อะไรล่วงหน้า เหมือนพี่มาสัมภาษณ์ ก็จะไม่ถามว่าพี่จะถามอะไร อยากตอบสดๆ แล้วเราจะทำคลิปออกมาช้ามาก เพราะวันจันทร์มีสีถูกโฉลกอย่างแต่งตาสีเขียวกับสีฟ้าหรือวันอังคารทาตาสีแดง แต่จะมีใครทาตาสีแดงออกจากบ้าน เราจะเอามาผสมได้ ต้องรีเสิร์ชว่าเราจะเอามาผสมกันแบบไหนถึงไม่โป๊ะแตก”



ไม่เหมือนใคร ไม่ตามเทรนด์ใดๆ

เพราะเธอไม่ใช่สาวสไตล์สวยพิมพ์นิยม ไม่ใช่สวยน่ารัก ไม่แต่งสวยตามดารา เลยต้องเป็นตัวของตัวเองสุดๆ “เราแต่งตามเค้าแล้วก็ไม่เหมือนค่ะ น้อยมากที่เราทำแต่งหน้าตามกระแส มันไปไวด้วยเราทำไม่ทัน อย่างแต่งหน้าผี ต้าร์ลงไม่ทันฮาโลวีนนะ มีแต่คนบอกพี่รีวิวช้ามากเลยค่ะ เราก็เลยไม่ทำอะไรตามกระแส เพราะไม่อยากให้คนคาดหวัง” ถึงจะช้า แต่มาทีก็ปังอยู่นะ เพราะว่าดูแต่ละอันบอกได้คำเดียวว่าเพลิน “ความครีเอทีฟน่าจะอยู่ในเส้นเลือดค่ะ ตั้งแต่สมัยเรียนเป็นคนห้าวหาญ ตลก ตะแลดแต๊ดแต๋ แต่แรงผลักดันที่ทำให้เราต้องคิดเป็นคือคำดูถูกจากอาจารย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีนะ เพราะตอนทำมิวสิควีดีโอก็โดนด่าว่าเอ็มวีคุณ คุณภาพยิ่งกว่าเพลงลูกทุ่งต้นทุนต่ำอีกนะ เค้าดูถูกได้ถูกจุดดี ดูถูกด้วยการสอนทำให้เป็นแรงผลักดันที่ดีมาก เราไม่ต้องการให้คนเห็นว่าเราดีขึ้นขนาดไหน แต่เราอยากเอาคำเค้าที่ว่ามาคิดมากกว่า ความคิดเราเลยประหลาด ชอบคิดแหกๆ แหวกๆ เราชอบดูอะไรแมสๆ อย่างสไตล์ต้าร์ถ้าให้ขายหมอน เราก็คิดเลยว่าเอาหมอนมาฟาดยังไงให้ขาดเลยดีมั้ย ความคิดเราจะประชดไปเลย บางอย่างที่บ้านๆ จะสนุกและเข้าถึงคนได้ง่ายกว่า”

 
ไม่สวยแต่สู้คนนะคะ!

ไม่ต้องมาแอ๊บสวย ต้าร์อยู่บนโลกตามความเป็นจริง แต่ก็ไม่ยอมให้ใครมาล้ำเส้นง่ายๆ นะ “เคยมีเว็บไซต์หนึ่งเอารูปต้าร์ไปลง ก็มีคนบอกว่าทำไมไม่โกนหนวด เราก็ตอบกลับความเห็นนั้นไปเลยว่าก็เราไม่อยากโกน เราพอใจที่เป็นแบบนี้ ไม่ว่าใครจะฟีดแบ็กว่าไม่สวย เราก็มีภูมิต้านทาน เมื่อก่อนต้าร์อ้วนดำใส่เสื้อสะท้อนแสง มีคนมาแซวเราก็ด่าคืนได้เลย แต่เราก็ไม่ใช่คนตรงแรงเว่อร์ขนาดนั้น แค่อยากสื่อว่าล้อไปก็ไม่ได้ผลค่ะ อยากล้อก็ล้อเลย ถ้าบอกว่าเราไม่สวยก็ไปดูคนสวยๆ เถอะ ชีวิตไม่ยาก อย่าทำให้มันยาก”

สวยแค่ไหนยังไม่เท่ารักตัวเองแค่ไหน

ถึงจะเซลฟ์ยังไง แต่ต้าร์เองก็เคยรู้สึกแย่ๆ อยู่บ้างจนเข้าใจว่าอะไรสำคัญที่สุดในชีวิตของเธอ “ทุกวันนี้ยังไม่เรียกตัวเองว่าเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์เลยค่ะ เพราะเราเองก็จิตตกไปช่วงนึง เราคิดว่าทำไมคนนี้จมูกโด่งจัง ขนาดตั้งมือถือถ่ายเฉยๆ คนยังชอบเลย เรานี่ถ่ายแล้วตัดต่อเยอะกว่าคนจะชอบ แล้วเรามาคิดว่าเราจะสวยขนาดนั้นไปเพื่ออะไร ต้าร์เจอกับพี่เอ๋ (บก. คลีโอ) พี่เอ๋ก็บอกว่าอย่าเอาสแตนดาร์ดโลกมาวัดตัวเราเอง ทุกคนบนโลกชอบคนสวย แต่เราจำเป็นต้องสวยทันโลกมั้ย ไม่จำเป็นหรอก เราต้องเคารพตัวเอง คุณเอาอะไรมาวัดว่าคนจมูกไม่โด่งไม่สวย ต้องรักตัวเองให้ได้ คนที่ตามเพจต้าร์ไม่มีคนที่เพอร์เฟ็กต์หรอก อ้วนบ้างผอมบ้าง แต่ทุกคนรักในความเป็นตัวเอง เราเลยกลับไปไม่คิดว่าต้องสวยเหมือนคนอื่นอีกต่อไป”

ดีใจที่แอตติจูดแบบนี้ก็ยังเหลือพื้นที่ว่างให้กับคนที่รู้สึกตัวเองไม่สวย แต่ฉันก็เห็นคุณค่าในตัวเองนะจ๊ะ เรื่องนี้สำคัญมากและต้าร์ก็เป็นคนที่นำเทรนด์นี้แทรกซึมเข้าไปให้สาวๆ ลุกขึ้นมาสวยในมุมที่ตัวเองเป็นได้ดีด้วย ติดตามเธอได้ที่เพจ Baroctar เลย (ชื่อ Baroctar เธอบอกว่าเมื่อก่อนบ้านักเขียนชื่อแดน บราวน์มาก แล้วก็ชอบศิลปะสมัยบาโร้ค เลยเอามารวมกันเป็นฉายาเท่ๆ อย่างนี้นี่เอง)