ช่วงนี้ใครๆ ต่างก็พูดว่า “โตแล้วจะทำอะไรก็ได้” แต่เรียนจบแล้วจะทำอะไรต่อ เมื่อมีตลาดแรงงานเปิดรอ ตำแหน่งว่างก็มากมาย แล้วไยส่งเรซูเม่ไปกลับไม่ถูกเรียกสัมภาษณ์เสียที วันนี้เราได้รวบรวมเคล็ดลับการเขียนเรซูเม่ฉบับไม่นก ไม่ตกงาน ส่งไปที่ไหนมัดใจนายจ้างที่นั่น มาบอกกัน

     ออกแบบให้ปัง >> การออกแบบเป็นสิ่งสำคัญ เรซูเม่แห่งปี 2017 ควรมีหน้าตาและรูปแบบที่เรียบง่าย แต่มีการตกแต่งที่โดดเด่นชัดเจน โดย Dana Leavy-Detrick เจ้าของบริษัทจัดทำเรซูเม่ Brooklyn Resume Studio ได้ให้คำแนะนำไว้ว่า การเพิ่มป๊อปอัพเล็กๆ เข้าไปจะช่วยเพิ่มความน่าอ่าน และควรเลือกใช้ฟอนต์ที่ดูเรียบร้อยซึ่งจะช่วยให้เรซูเม่ดูรัดกุมมากขึ้น

     ทำส่วนเฮดให้เปรี้ยง >> เรซูเม่ที่ดีควรดึงความสนใจนายจ้างให้ได้ในแวบแรก Jennifer Braganza โค้ชด้านอาชีพได้เสนอไว้ว่า “1 ใน 3 ด้านบนของเรซูเม่ คือสิ่งที่นายจ้างสแกนว่าเขาจะอ่านส่วนที่เหลือหรือไม่ และพวกเขาให้เวลากับส่วนนั้นแค่ 3 วินาที”

     รูปถ่ายทางการคือสิ่งจำเป็น >> หนึ่งในบริษัทสตาร์ทอัพของมาเลเซีย เปิดเผยว่า “นักศึกษาไทย 7 คนจาก 10 คน นิยมส่งเรซูเม่ที่แนบรูปภาพที่ไม่เป็นทางการ เช่น รูปเซลฟี่ หรือรูปขณะไปท่องเที่ยว” ซึ่งรูปภาพแบบนี้เป็นสิ่งที่เหล่านายจ้างไม่ค่อยประทับใจ

     บรรยายทักษะความสามารถให้เต็มที่ >> ผู้เชี่ยวชาญการเขียนเรซูเม่ อย่าง Sam Nolan ได้ให้คำแนะนำไว้ว่า ควรเขียนสิ่งที่เราจะทำได้เพื่อนายจ้าง ไม่ใช่สิ่งที่นายจ้างต้องทำให้กับเรา ซึ่งถือเป็นส่วนที่ล้ำค่าที่สุดในเรซูเม่เลย คล้ายๆ กับ iPrice ที่เสนอว่า อะไรที่ไม่สำคัญก็ตัดทิ้งไปเถอะ “นักศึกษาไทยให้ความสำคัญเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวมากเกินไป แต่ข้อมูลเหล่านี้ไม่ใช่ข้อมูลสำคัญที่จะถูกนำมาพิจารณา”

     อย่าใส่แต่รางวัลโดยไม่มีรายละเอียด >> ได้รับรางวัล หรือมีประวัติกิจกรรมยาวเหยียดทั้งที ต้องไม่พลาดใส่รายละเอียดบรรยายถึงสิ่งที่เราทำมาด้วย เพราะนายจ้างจะไม่รู้เลยว่ากิจกรรมเหล่านั้นช่วยเสริมทักษะหรือความสามารถเราอย่างไรกันบ้าง

     ส่งอีเมลสมัครงานอย่างเหมาะสม >> ในการส่งอีเมลสมัครงาน ควรเริ่มต้นด้วยคำแทนตัวเองอย่างสุภาพ เช่น ผม หรือดิฉัน ทั้งควรเริ่มต้นการเกริ่นนำให้มีความเหมาะสมด้วย เช่น การแนะนำตัวและจุดประสงค์ของการสมัครตำแหน่งนี้ เพื่อให้นายจ้างสนใจและอยากเปิดเรซูเม่ของเราขึ้นมาอ่านทันที