จากวลี “ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน” ทำให้มนุษย์ส่วนหนึ่งแบ่งกลุ่มคนตามลักษณะอาชีพ แต่วันนี้ลองมาดู 5 แนวคิดหลัก ที่เหล่าคนเจเนอเรชั่นวาย (Gen Y) ใช้ในการตัดสินใจเลือกอาชีพให้กับตัวเอง แล้วจะรู้ว่าเราก็สามารถเลือกงานที่ชอบ อาชีพที่ใช่ เพื่อให้ตัวเองมีค่าได้เช่นกัน

     1. เริ่มที่ความชอบและบรรยากาศ

การเลือกงานก็เหมือนการเลือกคู่ เพราะต้องอยู่ด้วยกันไปอีกนาน ด้วยเหตุนี้หนุ่มสาวยุคใหม่จึงเทใจให้กับงานที่คิดว่าทำแล้วชอบ หรือนำความชอบเหล่านั้นมาสร้างรายได้กลายเป็นอาชีพ เช่น ช่างภาพ บล็อกเกอร์ ยูทูบเบอร์ ซึ่งสิ่งที่คนเจนวายเลิฟเหมือนกันคือความมีอิสระ กว่า 60% จึงชอบการทำงานนอกสถานที่เพราะเชื่อว่าบรรยากาศมีผลกับความสุขในการทำงานเป็นอย่างยิ่ง

     2. ช่วงรายได้ที่ต้องการ

แม้ว่าการเลือกอาชีพไม่ควรยึดเรื่องเงินเดือนเป็นหลัก แต่อาจเป็นการง่ายกว่าหากคิดไว้แล้วว่า ตัวเองอยากได้งานรูปแบบไหน เหนื่อยมากน้อยเพียงใด และได้ค่าตอบแทนเท่าไหร่ เมื่อเริ่มต้นคำนวณตามความเหมาะสมก็จะช่วยตีวงอาชีพให้แคบลงและมองหาโอกาสได้ถูกจุดมากกว่า

     3. ประเมินหาความถนัด

บางครั้งเราเองก็ยังไม่รู้ว่าความสามารถที่มีอยู่มากน้อยแค่ไหน เพราะไม่เคยมีใครมาท้าทายเลยสักครั้ง ลองท้าทายตัวเองด้วยการทำแบบทดสอบเพื่อประเมินคุณลักษณะเฉพาะตัว หรือประเมินรูปแบบการทำงานที่เหมาะสมกับตัวเอง แล้วหาทางพัฒนาทักษะที่ใช่ให้ก้าวไปได้ไกลขึ้น ไม่แน่ว่าจากแบบประเมินเราอาจพบ
ตัวเลือกการทำงานที่เป็นตัวเรามากกว่าแค่เดินบนเส้นทางทั่วไปที่ใครๆ ก็เลือกเดิน

     4. กล้าเสี่ยงกับสิ่งใหม่

มีคำกล่าวที่ว่า “คนเรามักรู้ว่าตัวเองไม่ชอบอะไร มากกว่ารู้ว่าตัวเองชอบอะไร” ฉะนั้นการเริ่มทำสิ่งใหม่ๆ เพื่อค้นหาตัวตนและความชอบที่แท้จริงของเราก็ไม่ใช่วิธีที่เลวร้าย เพราะคนที่ประสบความสำเร็จบนโลก ส่วนมากก็ไม่ได้บรรลุผลตั้งแต่งานแรกที่ลงมือทำ แต่โอกาสมากกว่าที่ทำให้บรรดาคนเหล่านั้นสัมฤทธิผล

     5. เป็นคนเริ่มก่อน

ต้องยอมรับว่ากระแส Startup หรือความมุ่งมั่นจะเป็นผู้ประกอบการ ถูกปลูกฝังเข้าไปในดีเอ็นเอของคนยุคนี้ไปแล้ว โดยเฉพาะคนเจนวายซึ่งมีทางเลือกมากมายที่จะสร้างโลกการทำงานในฝันแบบที่ตัวเองต้องการ ดังนั้น แนวคิดเรื่องการทำงานของคนยุคใหม่จึงไม่ใช่การเป็นมนุษย์เงินเดือน หรือรับราชการ แต่เปิดกว้างในทุกรูปแบบที่คิดว่าเป็นไปได้และตอบสนองความต้องการของคนส่วนใหญ่