พาราเซตามอล กินพร่ำเพรื่อเสี่ยงตับพัง
- Published: Mar 16, 2017 11:30
- Writer: นสพ. M2F ฉบับวันที่ 14 มีนาคม 2560 | 3,782 viewed
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ยาพาราเซตามอล หรือยาแก้ปวด ลดไข้ เป็นยาที่คนไทยซื้อกินเองมากที่สุด แต่พฤติกรรมการซื้อและกินยาเองอย่างพร่ำเพรื่อ อาจส่งผลไปสู่การกินยาเกินขนาด ปัญหาการดื้อยา และปัญหาสุขภาพจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
ยาพาราเซตามอล เป็นยาแก้ปวดและลดไข้ ข้อดีคือ ไม่ระคายเคืองกระเพาะ แต่แท้จริงแล้วมีผลข้างเคียงที่อันตรายที่สุดคือ การเกิดพิษต่อตับ หากใช้เกินขนาดหรือใช้ติดต่อกันนานเกินไป ถึงแม้ว่าจะเป็นยาที่มีความปลอดภัยในการใช้ก็ตาม ซึ่งการกินยาพาราเซตามอลที่เหมาะสมสำหรับผู้ใหญ่ให้กินครั้งละ 2 เม็ด ทุก 4-6 ชม. ตามฉลากยา และห้ามรับประทานเกินกว่า 4,000 มก. หรือ 8 เม็ดต่อวัน ซึ่งยาพาราเซตามอลชนิดเม็ดส่วนใหญ่จะมีขนาด 500 มก. โดยแต่ละครั้งห้ามรับประทานเกิน 1,000 มก. หรือ 2 เม็ด และห้ามกินบ่อยภายในช่วงเวลาที่ต่ำกว่า 4 ชม. และไม่ควรกินติดต่อกันนาน 7 วัน เพราะจะส่งผลอันตรายต่อตับ
ตับเป็นอีกอวัยวะสำคัญซึ่งมีหน้าที่เสมือนโรงงานผลิตพลังงานให้ร่างกาย สร้างและควบคุมการใช้น้ำตาลกลูโคส โปรตีน น้ำดี เป็นหน่วยเก็บรักษาวิตามิน แร่ธาตุ รวมถึงมีหน้าที่กำจัดของเสียหรือสารที่เป็นพิษ ของเสียที่ร่างกายที่ได้มาจากอาหารหรือสารที่เรารับเข้าไป เช่น แอลกอฮอล์ กาแฟ หรือยา ซึ่งการที่ได้รับสิ่งเหล่านี้มากเกินก็อาจจะทำให้ตับเสียหายได้ โดยภาวะตับเป็นพิษจากพาราเซตามอล จะทำให้เซลล์ตับเสียหาย หากตับของเราไม่มีความสามารถที่จะกำจัดพิษออกได้อย่างทันท่วงที