เบื่อล่ะสิ... ชีวิตมนุษย์เงินเดือน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร คงต้องมีสักแวบนึงที่เคยคิดอยากจะหนีความวุ่นวายในแบบมนุษย์เงินเดือนไปทำอาชีพอิสระที่คิดว่า น่าจะสบายใจกว่า  ถ้าคิดจะลาออกจะไม่รั้งไว้สักนิด แต่เตรียมตัวให้พร้อมก่อนจะดีกว่า

1. เตรียมใจ

รู้ใช่ไหมว่า อาชีพอิสระ รายได้ก็อิสระตามไปด้วย เพราะบางช่วงอาจจะรายได้มาก แต่บางช่วงรายได้ก็อาจจะหายไปเฉยๆ ไม่เหมือนเงินเดือนที่ (ในภาวะปกติ) จะมาตรงเวลาเป๊ะ เพราะฉะนั้นก่อนจะลาออกต้องเตรียมใจที่จะมี “รายได้ไม่แน่นอน” เอาไว้ก่อน

2. เตรียมเงิน

ก็เพราะรายได้ที่ไม่แน่นอน เพราะฉะนั้นถ้าอยากจะทำอาชีพอิสระแบบสบายใจ จะต้องเตรียมเงินไว้ให้มากพอแต่มากแค่ไหนถึงจะเรียกว่าพอ ก็ขึ้นอยู่กับความสบายใจของแต่ละคน  บางคนอาจจะชอบความเร้าใจไม่กลัวความเสี่ยง คิดว่า “เงินหาง่าย” สำหรับความสามารถอย่างเรา ก็อาจจะมีให้พอใช้ไปสัก 2-3 เดือน  บางคนไม่อยากจะเครียดเรื่องเงิน เรื่องหางานมากนักในช่วงแรกของการลาออก ก็น่าจะต้องตุนไว้ให้พอใช้จ่ายสัก 5-6 เดือน น่าจะกำลังพอดี

3. เตรียมตัว

แม้เราจะ “เจ๋ง” ที่สุดในบริษัท แต่จะแน่ใจได้อย่างไรว่า เมื่อออกไปเป็นฟรีแลนซ์แล้ว เราจะโดดเด่นโดนใจคนจ้างงาน เพราะฉะนั้นก่อนจะลาออกจะทดลองไปชิมลางงานแบบฟรีแลนซ์ดูก่อนก็น่าจะดี  และที่ต้องเตรียมตัวไปพร้อมกัน คือ เตรียมตัวให้เคยชินกับ “รายได้ไม่ประจำ”  แน่นอนว่า รายจ่ายหลายอย่างจะลดลงไป เช่น ค่าเดินทาง ค่าแต่งตัว ค่าอาหาร ค่าสังสรรค์ ค่าภาษีสังคม และอื่นๆ อีกมากมาย  แต่ก็มีรายจ่ายอีกหลายอย่างที่เราต้องรับผิดชอบตัวเอง เช่น ค่าประกันสังคม ค่าดูแลสุขภาพ ค่าอุปกรณ์การทำงาน ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าน้ำค่าไฟ (อยู่บ้านมากขึ้นเปลืองมากขึ้น)  และต้องไม่ลืมรายจ่ายประจำที่ไม่ว่าจะทำงานที่ไหน มีงานหรือไม่มีงานก็ต้องจ่าย ไม่ว่าจะเป็นค่ากิน ค่าอยู่ และภาระหนี้ต่างๆ ซึ่งหากเป็นไปได้ก่อนจะลาออกต้องรีบจัดการให้ภาระหนี้ลดเหลือน้อยที่สุด จะได้ไม่ปวดหัวเวลารายได้ไม่มาตามนัด  หักลบกลบกันแล้ว เพิ่มขึ้นหรือลดลงและรายได้ที่คาดว่าจะมีจะเพียงพอรองรับค่าใช้จ่ายเหล่านี้ไหม

นอกจากนี้ ยังต้องปรับปรุงนิสัยบางอย่างให้เหมาะกับการเป็นฟรีแลนซ์ หรือทำอาชีพอิสระอีกนิดหน่อย เช่น

     - ต้องประหยัด

รายได้เข้าและรายได้ที่เข้ามาจะตรงตามเวลาที่คิดไว้ อาจจะช้าไปบ้าง หรือไม่ตรงเวลาบ้าง เพราะฉะนั้นต้องระมัดระวังการใช้จ่ายให้มากที่สุด

เคล็ดลับการอยู่รอดไว้ว่าต้องประเมินเงินเข้าให้ต่ำกว่าความจริง แต่ประเมินค่าใช้จ่ายไว้มากกว่าความจริง เพราะมันจะทำให้เราไม่ฟุ่มเฟือยเกินตัว

     - ต้องเก็บออมบัญชีเผื่อฉุกเฉิน

อาชีพอิสระที่ใช้แรงงานแลกเงิน ทำงานไม่ได้ ไม่มีรายได้เพราะฉะนั้นต้องมีเงินเก็บสำหรับใช้จ่ายยามฉุกเฉินและไม่มีงาน

บัญชีเผื่อขี้เกียจ มนุษย์เงินเดือนเวลาเบื่อๆ ก็หนีพักร้อนไป หายเหนื่อยก็กลับมาทำงานต่อ สิ้นเดือนก็มีเงินเดือนเหมือนปกติ แต่อาชีพอิสระบางอย่าง ถ้าอยากขี้เกียจต้องเตรียมเงินเผื่อเอาไว้

บัญชีเผื่อภาษี ที่ผ่านไม่เคยต้องสนใจเรื่องภาษี เพราะบริษัทหักไว้เรียบร้อย พอถึงเวลายื่นภาษีก็มีคนสรุปตัวเลขให้เรียบร้อย แถมบางทีก็รับหน้าที่ยื่นภาษีให้ด้วย แต่ถ้าทำอาชีพอิสระต้องรับผิดชอบภาษีด้วยตัวเอง

ถึงแม้ว่าผู้จ้างงานจะหัก ณ ที่จ่ายเอาไว้ แต่ก็อาจจะไม่พอสุดท้ายก็ต้องเสียภาษีเพิ่ม ซึ่งหลายคนอาจจะลืมเตรียมเงินไว้พอถึงเวลาต้องจ่ายภาษี ก็เลยชอร์ต ดังนั้น
ทางที่ดีเมื่อได้รับรายได้ต้องกันเงินส่วนหนึ่งไว้สำหรับจ่ายภาษีในปลายปีด้วย

     - ต้องรักษาสุขภาพ

เป็นฟรีแลนซ์ต้องอดทน เพราะฉะนั้นอย่าลืมออกกำลังกายให้แข็งแรง และต้องมีประกัน (จะได้มีคนช่วยจ่ายเวลาเจ็บป่วย) ไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ประกันชดเชยรายได้ และที่ลืมไม่ได้เลย คือ ประกันสังคม

ถ้าใจพร้อม เงินพร้อม และตัวพร้อม...ไปค่ะ ไปลาออกกัน