Bangkok post> Jobs > Career guide

อยากได้บรรยากาศออฟฟิศ

  • Published: Mar 14, 2017 12:20
  • Writer: Post Today | 1 viewed


     เหงาล่ะสิ... ชีวิตฟรีแลนซ์ วันๆ ไม่ค่อยได้พบเจอผู้คนสักเท่าไร บางทีบรรยากาศสบายๆ ที่บ้านก็ทำให้สมองไม่ค่อยแล่นได้เหมือนกัน และใครว่าการทำงานที่บ้านไม่มีค่าใช้จ่าย ค่าไฟ นี่ล่ะตัวสำคัญ เพราะเมืองไทยอากาศร้อน และอากาศร้อนก็ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ก็ต้องเปิดแอร์ ทำงานกลางคืนก็ต้องเปิดไฟ

     เพราะฉะนั้น พักไฟ พักแอร์ ที่บ้าน ออกไปทำงานนอกบ้าน ไปเจอะเจอผู้คน (ตัวเป็นๆ) บ้างดีกว่า

แล้วฟรีแลนซ์ยุคนี้ เขาไปทำงานที่ไหนกัน

Work @ Library 

ห้องสมุด เป็นตัวเลือกที่เหมาะมาก สำหรับงานที่ต้องการความสงบ ต้องการสมาธิ แต่ไม่ชอบอยู่คนเดียว เพราะขึ้นชื่อว่า ห้องสมุด (ที่มีแต่หนังสือ) จะเงียบมากๆ

อาจจะไปห้องสมุดของมหาวิทยาลัยต่างๆ ห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ของ กทม.ห้องสมุดประชาชน หรือจะเป็น TK Park ชั้น 8 เซ็นทรัลเวิลด์ และศูนย์เรียนรู้
สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ซอยงามดูพลี ถนนพระราม 4

แต่ถ้าไม่รู้จะไปไหนแนะนำ “ห้องสมุดมารวย” ที่อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งใหม่ (สถานีรถไฟใต้ดินศูนย์วัฒนธรรม) ไปแล้วจะติดใจ ยิ่งฟรีแลนซ์ที่ต้องการหาข้อมูลด้านการเงินการลงทุน รับรองว่าเพียบ!ที่สำคัญ คือ นั่งฟรี อ่านหนังสือฟรี 

แต่ข้อเสียหลักๆ ของห้องสมุด ที่อาจจะไม่ถูกใจฟรีแลนซ์เท่าไร คือ คุยงานไม่สะดวก ก็เพราะส่วนใหญ่งดใช้เสียง บางที่หาที่ชาร์จแบตยาก และอาจจะเสียค่าใช้อินเทอร์เน็ต หรือสัญญาณ Wifi 

อีกเรื่องหนึ่ง คือ ถ้าไปคนเดียวอาจจะลำบากหน่อย เวลาจะลุกไปไหน เพราะห้องสมุดเป็นพื้นที่สาธารณะ จึงต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยด้วยตัวเองก่อน

นอกจากนี้ การเข้าใช้บริการห้องสมุดบางแห่งยังต้องเป็นสมาชิก หรือมีค่าเข้าใช้บริการ 

Work @ Coffee Cafe

ง่ายๆ ก็คือ ทำงานที่ร้านกาแฟ ร้านเบเกอรี่ บรรยากาศดีๆ มีหลายแบบหลายร้านให้เลือก เหมาะมากสำหรับการนัดพบลูกค้า หรือนั่งทำงาน เพราะบางร้านมีบริการทั้งปลั๊กไฟ และ Wifi ฟรี แถมยินดีให้ลูกค้าอย่างเรานั่งได้นานเท่าที่ต้องการ

แต่บางร้านก็อาจจะไม่เหมาะสำหรับงานที่ต้องการสมาธิ เพราะอาจจะเป็นร้านที่มีลูกค้าหนาแน่น และแน่นอนว่า การนั่งนานเกินไปอาจถูกกดดันจากพนักงาน รวมถึงเรื่องความปลอดภัย เพราะถ้าลุกไปจากโต๊ะก็ไม่สบายใจ เป็นห่วงว่าข้าวของจะสูญหาย

และที่สำคัญ คือ ค่าใช้จ่าย อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีค่ากาแฟ 1 แก้ว หรืออาจจะ 2 แก้ว แถมขนมอีกนิดหน่อย รวมกับค่าเดินทางเข้าไปอีก อาจจะกลายเป็นหลายร้อยบาท เพราะฉะนั้นถ้าเลือกทำงานที่ร้านกาแฟก็ต้องคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายเอาไว้ล่วงหน้า

Work @ Co-working Space 

ถ้าเป็นเมื่อสัก 3-4 ปีที่แล้ว เวลาพูดถึง Co-working Space หรือพื้นที่ทำงานร่วมกัน อาจจะเป็นเรื่องใหม่สำหรับฟรีแลนซ์บ้านเราสักหน่อย เพราะมีให้บริการอยู่ไม่กี่แห่ง และยังจำกัดอยู่เฉพาะกลุ่มคนที่ทำงานด้านไอทีเท่านั้น

แต่ตอนนี้มี Co-working Space เกิดขึ้นจำนวนมาก และมีหลากหลายสไตล์ เหมาะกับฟรีแลนซ์หลากหลายกลุ่มอาชีพมากขึ้น มีแม้กระทั่ง Co-trading Space สำหรับกลุ่มนักลงทุน

ข้อดี คือ บรรยากาศเหมาะกับการทำงาน ได้แรงจูงใจในการทำงานมากขึ้น (หรือจะเรียกว่า แรงผลักดัน ก็ไม่ผิด เพราะเห็นเพื่อนนั่งทำงาน แล้วจะได้มีแรงฮึดขึ้นมาอีกเป็นกอง) และสบายใจเรื่องทรัพย์สินได้พอสมควร

ที่สำคัญ คือ ไม่เหงาเหมือนกับการทำงานที่บ้านคนเดียวแน่นอน เพราะมี “กลุ่มสังคม” ซึ่งนอกจากจะพูดคุยในเรื่องเดียวกัน แชร์ไอเดียกัน ยังอาจจะได้เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกันอีกด้วย

แต่ข้อเสีย คือ Co-working Space ที่เราชอบอาจจะอยู่ไกลจากที่พักอาศัย เดินทางลำบาก ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพิ่มขึ้น

รวมถึงมีค่าใช้จ่าย หรือค่าเช่าพื้นที่ ซึ่งในแต่ละที่จะมีค่าเช่า หรือค่าใช้พื้นที่ที่แตกต่างกัน ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจเลือกใช้บริการอย่าลืมเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายในแบบต่างๆ ให้เหมาะกับความต้องการและงบประมาณที่มี

แต่ส่วนใหญ่ถ้าเป็นค่าเช่ารายเดือน หรือรายปี เมื่อเทียบกับการนั่งทำงานที่ร้านกาแฟแล้ว Co-working Space อาจจะถูกกว่า และเปิดโอกาสในด้านอื่นๆ
ได้มากกว่า