ช่วงนี้ถ้าใครได้มีโอกาสท่องโลกออนไลน์จะเห็นคลิปวิดีโอหนึ่ง เป็นโฆษณาบริษัทมหาชนแห่งหนึ่งที่ติดหนึ่งใน 5 ของบริษัทที่คนรุ่นใหม่อยากเข้าไปทำงานด้วยมากที่สุด

     เป็นการเล่าเรื่องของหญิงสาวที่กำลังจะแต่งงาน ซึ่งเปรียบเทียบได้กับพนักงานบริษัท ได้เล่าให้ฟังถึงแฟนแต่ละคน เปรียบได้กับบริษัทที่ตนเองได้เคยทำงานผ่านมาว่าประสบกับเหตุการณ์อะไรมาบ้างถึงได้เลิกรากันไป หรือหมายถึงการลาออก จนได้มาพบกับว่าที่เจ้าบ่าว คือบริษัทมหาชนแห่งนี้ที่ตอบโจทย์เธอได้ทุกอย่าง ซึ่งก็ถือว่าทำออกมาได้ดีโดนใจคนที่เป็นพนักงานบริษัท โดยเฉพาะกลุ่มพนักงานรุ่นใหม่ Gen Y ทั้งหลายอยู่เหมือนกัน

     ส่วนตัวผมหลังจากได้ดูคลิปวิดีโอนี้แล้ว คิดว่ามีประเด็นที่น่าจะนำไปปรับใช้สำหรับคนที่อยู่ในวงการงานทรัพยากรบุคคล หรือแม้แต่เจ้าของกิจการทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กทั้งหลาย นั่นคือเรื่องของการจะสร้างองค์กรอย่างไรให้คนอยากทำงานด้วย

     ในความหมายนี้หมายถึง ทั้งบุคลากรภายนอกที่กำลังหางาน และบุคลากรภายในที่ต้องดูแลรักษาให้ทำงานกับบริษัทไปนานๆ ยิ่งถ้าเป็นคนมีความรู้ ความสามารถ และผลงานดี

     สำหรับบริษัทโดยทั่วไปมีงบประมาณอยู่บ้าง สำหรับคนภายนอกก็มีการทำสิ่งที่เรียกว่า Employer Branding เพื่อเป็นการดึงดูดคนให้สนใจในตัวบริษัทและสมัครงานเข้ามา ส่วนคนภายในก็ใช้วิธีการสำรวจที่เรียกว่า Employee Engagement Survey เพื่อให้ได้ชุดข้อมูลเพื่อนำไปวิเคราะห์หาประเด็นและแนวทางการพัฒนาองค์กร เพื่อให้มีสภาพแวดล้อมน่าอยู่และสามารถดูแลรักษาพนักงานเอาไว้

อย่างไรก็ตาม เท่าที่ได้รับทราบมาบ้างก็พบว่าผลที่ได้บางครั้งก็ยังไม่สามารถตอบโจทย์เรื่องการดูแลรักษาพนักงานเอาไว้ได้

     ในฐานะที่ปรึกษาที่ได้มีโอกาสทำเรื่องเหล่านี้มาบ้าง ก็พบว่าสิ่งที่สำคัญต้องคำนึงถึงคือ ความ “เข้ากันได้” ระหว่างตัวบุคคลกับบริษัทหรือองค์กร ซึ่งก็จะมีวิธีการต่างๆ เพื่อวัดและประเมินสิ่งเหล่านี้อยู่ ที่ไม่ใช่แค่การถามความคิดเห็นจากพนักงาน เพราะนั่นจะไม่ได้รู้จักตัวตนหรือความต้องการที่แท้จริงของเขา และจะไม่รู้ว่าบุคลากรทั้งจากภายนอกและภายในเหล่านั้นเข้ากันได้กับบริษัทหรือองค์กรเราหรือเปล่า

     การที่จะสร้างองค์กรให้น่าอยู่ คนอยากทำงานด้วย ขอเริ่มต้นให้เรามุ่งเน้นไปที่การพิจารณาลักษณะนิสัย พฤติกรรมและการทำงานของบุคลากรที่มีความสามารถ สร้างผลงาน ว่าบุคลากรเหล่านั้นมีปัจจัยอะไร ที่ทำให้เข้ากันได้กับองค์กรหรือบริษัทของเรา และปัจจัยอะไรที่จะทำให้เขาไม่อยู่กับองค์กรหรือบริษัทของเรา โดยต้องมีการระบุออกมาให้ชัดเจนก่อนว่ารูปแบบวิธีการทำงานภายในบริษัทหรือทีมงานเป็นอย่างไร

การทำงานร่วมกับหัวหน้างานและเพื่อนร่วมงานเป็นอย่างไร

     รวมทั้งชอบบรรยากาศการทำงานของบริษัทหรือองค์กรแบบไหน จากนั้นเราจึงสร้างองค์ประกอบต่างๆ ขององค์กรหรือบริษัทให้เป็นไปตามปัจจัยเหล่านั้น และคัดเลือกคนที่มีลักษณะนิสัย พฤติกรรม ที่เหมาะสมเข้ามาเป็นพนักงานองค์กรหรือบริษัทของเราต่อไป

     ถ้าสามารถทำตามแบบนี้ได้แล้วก็คาดหวังได้เลยว่าพนักงานที่มีความรู้ความสามารถก็จะอยู่กับองค์กรหรือบริษัทเราไปอีกนาน หรือคิดจะลาออกก็คงลำบากใจ ในขณะเดียวกัน เราก็สามารถคัดเลือกพนักงานที่เหมาะสม เข้ากันได้มาร่วมงานได้เพิ่มขึ้น เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนองค์กรหรือบริษัทของเราต่อไป