คู่มือความสุข ปล่อยวาง ให้อภัย ไม่คิดมาก
- Published: Mar 2, 2017 17:03
- Writer: Post Today | 3,273 viewed
คนเราเมื่อยิ่งอายุมากขึ้น ยิ่งต้องพยายามใจเย็นให้มาก ปล่อยวางให้ได้ เรื่องบางเรื่องก็อย่าไปคิดให้เสียเวลา ลืมๆ มันไปบ้าง เพราะหากจดจำทุกเรื่อง อาฆาตมาดร้ายโดยเฉพาะความทรงจำที่ไม่ดี ก็จะกลายเป็นไฟที่เผาไหม้ตัวเราเองให้ร้อนรุ่มตลอดเวลา ทำให้ตัวเรามีนิสัยที่ใจร้อน หมกมุ่นคิดมาก เหมือนน้ำร้อนที่ใครก็ไม่อยากดื่มกินเพราะไม่ชื่นใจ ใครๆ ก็ไม่อยากเข้าหน้า แต่ถ้าเราทำตัวง่ายๆ สบายๆ ไม่คิดมาก เปรียบเหมือนน้ำเย็นใครอยู่ใกล้ก็สบายใจ อยากดื่มกินดับกระหายให้ชื่นใจ ลูกหลานก็อยากมาหามาเยี่ยมเยือน คนเราเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ควรเป็นผู้ให้มากกว่าเป็นผู้รับ ไม่ต้องสะสมอะไรให้มาก โดยเฉพาะเรื่องวิธีคิดนั้นต้องปลงให้ได้ ปล่อยให้เป็น เลิกตั้งคำถามมากมายกับชีวิตหรือกับคนอื่น มองคนอื่นด้วยสายตาที่มีเมตตาธรรมมากขึ้น กดดันตัวเองและคนอื่นให้น้อยลง
1. อย่าเฝ้าแต่สงสัยว่าคนอื่นกำลังคิดอะไร คุณไม่มีวันรู้หรอกว่าเพื่อนร่วมงาน เจ้านาย หรือคนรอบข้างคุณกำลังคิดอะไร แล้วคุณจะมัวสงสัยไปทำไม และถึงแม้คุณจะอ่านใจพวกเขาได้ แต่มันก็ไม่ใช่ธุระของคุณที่จะไปสนใจเรื่องของคนอื่นอยู่ดี ปล่อยวางซะ ทำตัวเรียบง่ายสบายๆ
2. อย่ามัวแต่คิดว่าชีวิตจะเปลี่ยนไปอย่างไร...ถ้า? หากคุณกำลังเบื่องานที่กำลังทำอยู่ในปัจจุบัน อยากเปลี่ยนงาน หรืออยากเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้น อย่ามัวแต่ครุ่นคิดถึงอดีตที่คุณกลับไปแก้ไขมันไม่ได้ แต่จงจดจ่อกับสิ่งที่คุณเป็นอยู่ในปัจจุบัน หาวิธีที่จะทำให้คุณมีอนาคตอย่างที่คุณใฝ่ฝันหรือเตรียมเกษียณอย่างมีความพร้อมจะดีกว่า
3. อย่าพร่ำบ่นในสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมของคุณ การพร่ำบ่นถึงสิ่งใดก็ตามที่อยู่เหนือการควบคุม เช่น ลมฟ้าอากาศ การเมือง โรคภัยไข้เจ็บ หรือแม้แต่เพื่อนร่วมงานเจ้าปัญหา ลูกหลานที่ไม่ได้อย่างใจ ล้วนเป็นสิ่งที่เสียเวลาอันมีค่าของคุณอย่างยิ่ง เพราะคุณไม่มีวันจะเปลี่ยนแปลงมันได้
4. อย่าจินตนาการถึงสิ่งเลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้น นี่คือเหตุผลที่ทำไมใครๆ ก็สนับสนุนให้คิดบวก เพราะหากคิดถึงแต่สิ่งไม่ดีที่อาจเกิดขึ้น มันก็มีทางให้คิดไปได้มากมายไม่จบสิ้น คิดไปก็เสียพลังงาน แถมยังบั่นทอนกำลังใจในการใช้ชีวิตเปล่าๆ แต่ถ้าเรื่องเลวร้ายนั้นเกิดขึ้นจริง มันก็จะเต็มไปด้วยเรื่องแย่ๆ ที่คาดไม่ถึง ดังนั้น ถึงจะคิดไปก็เสียเวลาอยู่ดี
5. อย่าคาดหวังว่าทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบ จำไว้ว่า Nobody Perfect ขึ้นชื่อว่าคนไม่มีใครดีเต็มร้อย หรือเลวเต็มร้อย คนเรามีดีมีชั่วในตัวเอง มากน้อยแตกต่างกันไป คุณอาจจะอยากให้งานคุณออกมาสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ แต่ในโลกแห่งความจริงนั้นไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบ แล้วจะคาดหวังไปทำไม เพียงทำให้เต็มที่ เต็มความสามารถไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ก็ควรยอมรับมันและภาคภูมิใจว่าทำดีที่สุดแล้ว
6. คิดถึงเรื่องที่มีความสุขก่อนนอน เพื่อที่คุณจะนอนหลับไปกับรอยยิ้มที่มุมปาก เลือกจำแต่เรื่องที่ดีๆ เข้าไว้ มองว่าความทุกข์ที่พบเจอนั้นเป็นเรื่องธรรมดาใครๆ ก็ต้องเจอ ถ้าคิดบวกเข้าไว้ได้ความทุกข์ที่รุมเร้าก็จะเบาบางลง
7. อย่าคิดมาก บางเรื่องไม่ได้คำตอบตอนนี้ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวเวลาผ่านไปก็ได้คำตอบเอง หัดใจเย็น หัดรอคอยเดี๋ยวก็ได้คำตอบมาเองแล้วทุกอย่างจะค่อยๆ ดีขึ้น
8. หัดให้รางวัลตัวเอง ทำงานหนักๆ หรือใช้ชีวิตมาอย่างสมบุกสมบันเมื่อวัยหนุ่มสาว เมื่อเริ่มเข้าช่วงเวลาสูงวัย หัดมีรางวัลชีวิตให้ตัวเอง อย่ามัวแต่หาเงินจนลืมใช้เงินจนสายเกินไป พอคิดจะเที่ยวก็แข้งขาไม่ดี จนเดินไม่ไหวไปไหนก็ไม่สนุก
9. อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ควรมองคนอื่นด้วยความเข้าใจและมองตัวเองอย่างมีเมตตาธรรม ใครจะรวยมาก จนมาก หรือเราจะรวยจะจน อย่างไร ถึงวัยนี้ต้องปล่อยวางให้ได้ จงมีความสุขกับชีวิต พอใจกับสิ่งที่มีที่เป็นอยู่ ให้ความสำคัญกับคนรอบข้างในฐานะเพื่อนมนุษย์เช่นเดียวกับเรา
10. หัดเป็นผู้ให้ ทำตัวเป็นผู้ให้และให้มากขึ้น สังคมที่มีผู้ให้มากกว่าผู้รับจะเป็นสังคมที่มีความสุขและอ่อนโยน ไม่ได้หมายถึงการให้เงินอย่างเดียว อาจจะเป็นการให้เวลา ให้โอกาส ให้สิ่งของที่เรามีมากกว่า ให้คำแนะนำจากประสบการณ์ที่ดีๆ และที่ผิดพลาดของเราให้คนอื่นได้นำบทเรียนไปเป็นครูสอนทางลัดให้กับชีวิตของคนรุ่นหลังๆ จากเรา
แม้จะทำไม่ได้ทุกข้อแต่จงควรพยายามทำให้ได้มากที่สุด แล้วคุณจะเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุขกับชีวิตมากยิ่งขึ้น มองโลกด้วยสายตาที่ดีงามกว่าที่เคยเป็น