การทำงานบางครั้งหลายคนอาจสงสัยตัวเองเหมือนกันที่แม้จะทำงานตามที่ลิสต์ไว้แล้วแต่งานก็ไม่เสร็จทันเวลาตามที่วางแผนไว้ ในหนังสือชีวิตไม่ยากที่เขียนโดยคณาจารย์จากคณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่าอาจมาจากปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ ซึ่งถ้าใครเป็นต้องรีบแก้ไข ไม่อย่างนั้นงานก็ไม่สำเร็จ

     1. ควบคุมตัวเองให้ทำตามแผนงานไม่ได้  ถ้าใช่..ควรพิจารณาถึงสาเหตุที่ทำให้เรากำกับตัวเองไม่ได้ เช่น เปิดเว็บไซต์ระหว่างค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตหรือเปล่า มัวแต่อ่านการ์ตูน จัดห้อง ซักผ้า แต่งหน้า หรือทำอย่างอื่นระหว่างทำงานหรือเปล่า ถ้าเป็นอย่างนั้นลองมาตั้งมาตรการบางอย่างเพื่อมาควบคุมกิจกรรมเหล่านี้ เช่น จัดเวลาสำหรับทำกิจกรรมนี้โดยเฉพาะและเมื่อครบกำหนดเวลาก็ต้องยุติกิจกรรมเหล่านี้ หากไม่อาจควบคุมตัวเองได้เมื่อถึงกำหนดเวลาก็มักจะหยวนๆ บอกตัวเอง ขออีก 5 นาที ผลัดไปเรื่อยสุดท้ายก็เกินเวลาที่กำหนดไป

     2. ขาดความรู้หรือทักษะการทำงาน ถ้าใช่..ควรจัดเวลาสำหรับพัฒนาศักยภาพของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการเข้าร่วมฝึกอบรม การอ่านหนังสือหาความรู้ หรือการเรียนรู้โดยการสังเกตวิธีการทำงานของคนอื่น แล้วนำมาประยุกต์ให้เหมาะกับตัวเอง

     3. เป็นคนทำงานช้า ถ้าใช่..อาจต้องฝึกฝนเพื่อให้มีความชำนาญในสิ่งที่ทำจนสามารถทำงานได้รวดเร็วขึ้น หรือเรียนรู้เทคนิควิธีที่จะพัฒนาตัวเองให้ทำงานได้เร็วมากกว่านี้

     4. ทำงานสะเพร่าจนเกิดข้อผิดพลาด การแก้ไขงานที่ผิดพลาดนี้จะทำให้ใช้เวลาในการทำงานชิ้นหนึ่งๆ เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว เราอาจต้องทำงานอย่างมีสติ ใจจดจ่ออยู่กับงาน หรือทำงานช้าลงอีกนิด พร้อมตรวจสอบความละเอียดขณะทำงาน เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาตามแก้ทีหลัง

     5. ทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกันมากเกินไป การทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกันอาจจะเป็นการดึงสมาธิและแบ่งความสนใจในงานของเราโดยไม่จำเป็น นึกถึงว่าระหว่างที่เราต้องเตรียมเอกสารการประชุมเราต้องประสานกับเจ้าหน้าที่จัดเตรียมห้องประชุมไปด้วย เจ้าหน้าที่เตรียมของว่างไปด้วย เราต้องแบ่งภาคร่างกาย แบ่งภาคสมองของเราขนาดไหน ทางที่ดีควรทำทีละงาน หรืองานใดพอรวมกลุ่มได้แล้วงานไม่เสียก็อาจทำไปด้วยกันได้ แต่บางอย่างก็รวมไม่ได้ เช่น การเตรียมเอกสารการประชุมและการทำหลักสูตรการอบรมไม่ควรรวม แต่ควรทำให้เสร็จเป็นเรื่องๆ 

     6. มุ่งมั่นทำทั้งที่ร่างกายล้าเต็มที การมุ่งมั่นทำงานเป็นสิ่งดี แต่ไม่ได้หมายความว่าจะได้คุณภาพงานที่ดีหากเราฝืนทำทั้งที่ร่างกายยังไม่พร้อม หากมีข้อมูลในสมองมากเกินไปก็ไม่สามารถบริหารจัดการข้อมูลที่มีอยู่ได้อย่างเต็มที่ ตะบี้ตะบันทำไปก็อาจจะได้งานที่ผิดพลาดให้ตามแก้ เมื่อถึงจุดที่สมองไม่สามารถสร้างสรรค์งานต่อไปได้คงถึงจุดที่ต้องพักบ้าง เช่น เดินไปเข้าห้องน้ำ ยืดเส้นยืดสาย ดื่มน้ำ พักสายตาบ้าง สัก 5-15 นาที เคลียร์สมองให้ปลอดโปร่งค่อยกลับมาทำงานใหม่ ผลงานที่ได้อาจจะน่าพึงพอใจกว่า

     7. บริหารเวลาไม่เป็น หลายคนหมดเวลาไปกับเรื่องที่ไม่จำเป็น เช่น เปิดดูว่ามีอีเมลเข้ามาหรือเปล่าอยู่บ่อยๆ หรือเปิดอีเมลทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเตือน เสียเวลาไปเปรียบเทียบงานของตนกับของคนอื่น หรือบ่นว่างานยาก เป็นต้น หากถ้าลองปรับการใช้เวลา แทนที่จะบ่น แทนที่จะคิดเปรียบเทียบแล้วมาคิดวางแผน คิดวิธีการทำงานและเริ่มทำงานไปทีละขั้นตอนตามที่วางแผนไว้ เราจะใช้ประโยชน์จากเวลาได้คุ้มค่า