1 ปีก่อนเกษียณควรทำอะไร
- Published: Oct 7, 2016 15:49
- Writer: Post Today | 1 viewed
เมื่อใกล้จะถึงวันเกษียณนั้นมีหลายสิ่งอย่างที่เราจะต้องเตรียมความพร้อมให้ดีก่อนถึงวันที่เราจะได้อยู่บ้านนานกว่าอยู่ที่ทำงานและเดินเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยพอๆ กับเดินศูนย์การค้า และนี้คือ 5 สิ่งที่คุณควรทำก่อนถึงวันนั้น
1. ตรวจสอบสิทธิประโยชน์ทางด้านประกันสังคม
ส่วนมากแล้วทุกคนจะใช้บริการกับกองทุนประกันสังคม ที่ช่วยลดภาระหลายๆ อย่างในวัยชราไปได้มากตั้งแต่การได้เงินบำนาญ ช่วยค่าใช้จ่ายต่อเดือน มีค่ารักษาพยาบาล ซึ่งแม้จะไม่ได้ดีมากนักแต่ก็ช่วยค่ารักษาพยาบาลได้เกือบทุกโรค ดังนั้นก่อนเกษียณอายุประมาณ 1 ปี ควรตรวจสอบสิทธิต่างๆ ที่เราจะได้รับจากประกันสังคมที่เราทำไว้ ซึ่งมีระยะเวลาที่เราจะต้องดำเนินการภายในกำหนด มิเช่นนั้นอาจจะเสียสิทธิไปอย่างน่าเสียดาย
2. การจัดทำประกันสุขภาพ
ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพน่าจะเรียกได้ว่าเป็นค่าใช้จ่ายหลักอย่างหนึ่งหลังวัยเกษียณ ก็ว่าได้ดังนั้นคุณจึงควรทำประกันสุขภาพวัยชราเอาไว้ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้น แต่แนะนำว่าควรทำแบบที่ต้องมีการตรวจสุขภาพเท่านั้น ยุ่งยากในเบื้องต้นแต่ในระยะยาว เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเมื่อเจ็บป่วยขึ้นแล้วประกันจะไม่เล่นแง่ด้วยข้อบังคับเพียงไม่กี่ตัวอักษร ซึ่งจะทำให้เราเสียเงินไปฟรีๆ
3. ตรวจสอบเงื่อนไขเงินบำนาญ
หากทำงานรับราชการที่มีการให้เงินบำนาญ หรือมีกองทุนที่ทำไว้เฉพาะ ควรตรวจสอบเงื่อนไขการรับเงินบำนาญว่าจะได้อย่างไรเมื่อไหร่และเท่าไร ในกรณีเสียชีวิตคู่สมรส หรือบุตรสามารถรับเงินบำนาญบางส่วนได้หรือไม่ และบอกกล่าวให้ทุกคนในครอบครัวได้รับทราบ
4. การสำรองเงินและการวางแผนเกี่ยวกับมรดก
เตรียมเงินสำรองฉุกเฉินให้พอใช้อย่างน้อย 3 เดือน เผื่อในกรณีที่เงินบำนาญได้ล่าช้าและอาจมีเหตุฉุกเฉินที่จำเป็นต้องใช้ในทันที รวมทั้งวางแผนมรดกเพื่อนำทรัพย์สินไปให้ทายาทอย่างไปตามความประสงค์
เพราะชีวิตเป็นอะไรที่ไม่แน่นอนบางคนคิดว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่ต่อไม่ถึง 5 ปี ก็เลือกเอาเงินบำเหน็จมาใช้แต่เอาเข้าจริงเกิน 5 ปี แล้วสุขภาพก็ยังแข็งแรงอยู่ บางคนเลือกเงินบำนาญแต่ใช้ได้ไม่ถึง 3 เดือน ก็มีเหตุต้องเสียชีวิตจากไป ดังนั้นเราจึงควรเตรียมความพร้อมไว้ตลอดเวลาเป็นดีที่สุดครับ
เกษียณแล้วประกันสังคมให้เท่าไร
คนที่มีภาระจนไม่มีเงินเหลือเก็บมากพอที่จะใช้ลงทุนเพื่อการเกษียณ การส่งเงินประกันสังคมก็เป็นอีกทางหนึ่งที่เราจะได้เงินบำนาญมาเลี้ยงชีพยามชรา แต่ก็มีข้อแม้ที่เราต้องควรรู้ดังนี้ ผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับเงินบำนาญจะต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 15 ปี มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพเป็นรายเดือน 20 เปอร์เซ็นต์ของค่าจ้างเฉลี่ย 5 ปีสุดท้ายของการทำงาน โดยสูงสุดของเงินเดือนที่นำมาคิดจะไม่เกินเดือนละ 1.5 หมื่นบาท หมายความว่าไม่ว่า 5 ปีก่อนเกษียณของเราจะมีเงินเดือน 2.5 หมื่นบาท หรือมากกว่านั้นเป็นแสนบาท ประกันสังคมก็จะคิดให้เราแค่ 1.5 หมื่นบาท
หากส่งเงินต่อเนื่องเป็นเวลา 15 ปี ก็จะได้เงินบำนาญเดือนละ 3,000 บาท และเพิ่มตามจำนวนปีที่ส่งปีละ 1.5 เปอร์เซ็นต์ หากส่ง 25 ปีก็จะได้เงินบำนาญเดือนละ 5,250 บาท หากส่ง 35 ปี ก็จะได้เดือนละ 7,500 บาท
ซึ่งตอนนี้ระยะเวลาส่ง 35 ปี หรือไม่เกินอายุ 55 ปี เป็นเพดานสูงสุดของการได้เงินบำนาญจากประกันสังคม ซึ่งเวลานี้มีข่าวว่าอาจจะมีการปรับเปลี่ยนการคำนวณแบบใหม่ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับค่าเงินเฟ้อ เพื่อเงินบำนาญนั้นจะได้เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพ ซึ่งทุกคนที่ส่งเงินสมทบประกันสังคมต้องติดตามกันต่อไปว่าจะปรับเพิ่มขึ้นหรือมีวิธีคิดแบบไหน เพื่อจะได้วางแผนชีวิตการเงินหลังเกษียณได้อย่างถูกต้อง