Bangkok post> Jobs > Career guide

8 ข้อที่จะบอกว่าคุณไม่จำเป็นต้องพิสูจน์อะไรให้ใครยอมรับ

 

     “You alone are enough. You have nothing to prove to anybody.” ไม่จำเป็นต้องขอให้ใครยอมรับ หลายคนอาจเคยอึดอัดกับการคิดต่าง แล้วก็รู้สึกว่าต้องพยายามทำใจร่มๆ เพื่อรักษาความสัมพันธ์กับคนที่เราแคร์ ใครคนหนึ่งพยายามสอนฉันเสมอ ผมรู้ว่าคุณดีแค่ไหน และถ้าใครหลายคนจะไม่เคยเข้าใจคุณในสิ่งที่คุณทำหรือพูด ก็ให้จำไว้ว่า “คุณเพียงคนเดียวก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์อะไรให้ใครยอมรับ”

     บางครั้งเราพยายามที่จะแสดงให้โลกเห็นชอบและยอมรับ แต่เราไม่สามารถทำให้ทุกคนโปรดได้หรอก ดังนั้น จงหยุดพยายามทำตัวอย่างที่ใครรอบข้างอยากให้เราเป็น จงเปิดตัวเองถึงความสัมพันธ์ที่แท้จริง ความสุขที่แท้จริง และความสำเร็จที่แท้จริง แต่ไม่ใช่จากการโต้เถียง แค่ไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากาก ไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นคนที่คุณไม่ได้เป็น เราไม่มีความจำเป็นต้องพยายามให้ใครพอใจ เพราะ...

1. คนที่มีคุณค่าพอ ที่คุณจะสร้างความประทับใจโดยตัวตนของคุณ

     ในความเป็นจริง ความสัมพันธ์ที่เวิร์คในระยะเวลายาวนานนั้น คนจะรักคุณเพราะตัวตนที่แท้จริงของคุณเอง จะรักที่คุณเป็นคนดี โดยไม่ต้องเปลี่ยนเป็นคนที่ไม่ใช่ตัวเอง จงเมินเฉยต่อผู้คนที่ชอบเปรียบเทียบและคาดหวังให้คุณเป็นอย่างที่พวกเขาเป็น คุณควรพยายามที่จะเป็นบุคคลคนเดียวกับที่คุณเป็นมากกว่า แล้วคุณจะสุขอย่างแท้จริง

2. ไม่มีใครรู้สิ่งที่ดีสุดสำหรับคุณ

     อย่าสูญเสียความเป็นตัวเองเพื่อให้ผู้อื่นยอมรับ จงตั้งมั่นเดินเส้นทางของคุณ โดยไม่ต้องคาดหวังให้ใครเข้าใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพวกเขาไม่เคยเดินไปในทางที่คุณเดิน ไม่มีใครเดินในรองเท้าของคุณ เมื่อคุณไม่ฟุ้งซ่าน ไม่สับสนกับความเห็นของผู้อื่น โลกจะสวยงามมากขึ้น

3. คุณคือผู้เดียวที่สามารถเปลี่ยนชีวิตของตัวเอง

     ในทุกสถานการณ์ที่คุณเคยคิดบวกหรือลบ มันคือความรับผิดชอบของคุณเองและแค่คุณคนเดียว จงอย่าปล่อยให้ความคิดเห็นของผู้อื่นรบกวน สิ่งที่คุณสามารถบรรลุได้ในวันนี้ หลายคนอาจเคยบอกว่าเป็นไปไม่ได้ สิ่งที่คุณทำสำเร็จทั้งหมด ขึ้นอยู่กับการเลือกของคุณเท่านั้น เลิกเอาเวลาและพลังงานของคุณไปกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่คนอื่นคิดได้แล้ว

4. สังคมที่ติดในวัตถุ วัดมูลค่าได้ศูนย์

     ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณติดอยู่ระหว่างการเดินต่อไป กับสิ่งที่สังคมบอกว่าคุณเหมาะกับอะไร จงจำไว้ให้เลือกสิ่งที่สัญชาตญาณของคุณบอกไว้ คนเหล่านั้นมักพยายามที่จะวัดมูลค่าของคุณตามสิ่งที่คุณมี มากกว่าสิ่งที่คุณรู้ในใจตัวเองว่าคุณเป็นอย่างไร สิ่งของวัตถุไม่สำคัญ อย่าวิ่งไล่ตามเงิน จงจับและฟังความคิด ความรู้สึก สิ่งพวกนั้นมีค่ากว่าเงินมากนัก เงินไม่สามารถซื้อได้ทุกสิ่ง โดยเฉพาะตัวคุณเองและความภูมิใจ อย่าติดกับเงิน จนปล่อยให้เงินมาทำลายคุณ จำไว้ชีวิตยังไม่จบตอนนี้ คุณอาจทรมานไปตลอดชีวิตกับการทำผิดเล็กๆ เพียงครั้งเดียว อย่าปล่อยให้กรรมวิ่งไล่ล่าคุณ

5. ชีวิตไม่ใช่การแข่งขันเสมอไป และคุณไม่พิสูจน์คุณค่าของตัวกับใคร

     ทุกคนอยากไปที่ยอดเขาก่อน แล้วตะโกนลั่นๆ ว่า “มองฉัน มองฉันสิ ฉันมาถึงจุดที่สูงที่สุดแล้วนะเห็นไหม ฉันเก่งกว่าพวกเธอด้านล่างนั่น” แต่ความจริงก็คือทั้งความสุขและประสบการณ์ที่แท้จริงคือ ในขณะที่คุณกำลังปีน คุณเพลิดเพลินกับการเดินทาง ให้ความสนใจกับสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวคุณและสิ่งที่คุณกำลังจะผ่านไป คุณสังเกตนกคู่นั้นตรงยอดไม้นั่น คุณสูดอากาสที่สดชื่น คุณชื่นชมในท้องฟ้าสวย จงคิดถึงมันและลืมทุกคนที่เกี่ยวข้องกับคุณ นี่ไม่ใช่การแข่งขัน เลิกงี่เง่าเพราะต้องคอยพยายามพิสูจน์ตัวเองกับคนอื่น

6. เส้นทางเพื่อความสำเร็จ บางครั้งต้องผ่านความล้มเหลว

     ฟังดูแปลกและบ้าใช่ไหม บางครั้งเป็นวิธีเดียวที่จะก้าวไปข้างหน้า ถ้าคุณพยายามหนักเกินไปที่จะให้คนเห็นความ “สมบูรณ์แบบ” คุณจะบ้าไปเอง ถ้าคุณกลัวความล้มเหลวต่อหน้าผู้อื่นมากเกินไป คุณก็ไม่อาจทำอะไรให้ประสบความสำเร็จในดวงตาของคุณเองได้เช่นกัน จำไว้ว่ามันไม่สำคัญว่าคุณล้มเหลวกี่ครั้ง หรือยุ่งยากกับการหาวิธีการเดินทางไปให้ถึงจุดมุ่งหมาย แต่สิ่งที่สำคัญคือคุณเอาใจแบบไหนไปด้วยต่างหาก และก้าวไปตามทางที่คุณเชื่อมั่นเท่านั้นพอ

7. เป็นไปไม่ได้ ที่จะได้ใจทุกคน

     มักจะมีคนบอกว่าคุณทำผิด แล้วลังเลที่จะชมเชยคุณ หรือทำเป็นไม่ใส่ใจความสำเร็จในสิ่งที่คุณทำอยู่ เมื่อคุณพบกับคนที่พยายามจะทำให้คุณอับอาย เสียชื่อ หรือไม่เคารพคุณ และปฏิบัติต่อคุณไม่ดี อย่างไม่มีเหตุผล อย่าพยายามเปลี่ยนแปลง หรือเอาชนะ หรือพยายามเอาชนะใจใคร หรือหาข้อพิสูจน์ เพื่อให้เขากลับมาชื่นชมคุณ คนเหล่านี้ก็แค่คนที่หงุดหงิดกับชีวิตตัวเอง ที่ไม่เป็นไปดังใจฝัน

8. ไม่จำเป็นต้องพยายามอย่างหนัก เพื่อดึงใครกลับมา

     เชื่อว่าหลายคนคงเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ อยู่ๆ คนใกล้ตัวก็ห่างเหิน ใครบางคนที่ตัดสินคุณทันทีที่คุณทำเรื่องอะไร และแปลสิ่งที่คุณทำไปเป็นอื่น หรือเพื่อนที่หงุดหงิดทุกครั้งที่คุณมีแฟนใหม่หรือมีคนที่รักคุณมาก หรือเพื่อนที่พยายามดึงความสนใจจากผู้คนไปจากคุณ หรืออยู่ๆ คนเหล่านั้นก็ค่อยๆ หายไปจากชีวิต คนเหล่านี้แค่ขี้อิจฉาและแค่ต้องการทำให้คุณรู้สึกเจ็บปวดเพราะถูกปฏิเสธเหมือนที่พวกเขาเป็น เลยต้องทำแบบนี้กลับในช่วงเวลาที่คุณสำเร็จ

     เห็นไหม ว่าเรามีเหตุผลดีๆ มารองรับตั้งมากมายที่จะใช้ชีวิตให้เป็นตัวเอง โดยที่ไม่ต้องคำนึงหรือกังวลว่าเราเป็นยังไงในสายตาคนอื่นๆ ชีวิตคุณ จงใช้ตามแบบที่ดีและทางที่คุณเลือกเอง

(สเพคแทค'คิวละ)