การเป็นคนทำงานยุคใหม่หรือยุคเก่าไม่ได้อยู่ที่อายุตัวหรืออายุงาน แต่อยู่ที่การปรับตัวในการทำงานมากกว่า จะเห็นว่าคนที่มีอายุงานมากบางคนชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา ไม่กลัวเทคโนโลยี พร้อมเปลี่ยนแปลงตัวเอง ขณะที่คนรุ่นใหม่บางคนชอบทำงานแบบคนรุ่นก่อนๆ ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ทำงานแบบไหนก็อยากทำเหมือนเดิมไปตลอด จึงสรุปไม่ได้ว่าคนทำงานยุคใหม่คือคนที่มีอายุน้อยเท่านั้น เพื่อให้คนทำงานที่มีความคิดทันสมัยทั้งคนที่อายุมากและอายุน้อยมีเส้นทางการทำงานที่สดใส เรามีข้อคิดและแนวทางการทำงานสู่ความสำเร็จเอาไว้ให้ดำเนินรอยตาม

#ประสบการณ์คนรุ่นก่อนคือมรดกล้ำค่า

ในช่วงชีวิตแห่งการทำงาน คนทำงานรุ่นใหม่จึงควรป้องกันความผิดพลาดให้กับตัวเอง โดยการเรียนรู้จากประสบการณ์ของคนรุ่นก่อนๆ ซึ่งมีทั้งประสบการณ์ที่เป็นความผิดพลาดที่สามารถนำมาใช้ในการวางแผนป้องกันไม่ให้ผิดพลาดซ้ำเรื่องเดียวกันกับคนรุ่นก่อน และนำเอาประสบการณ์ที่ดีของคนรุ่นก่อนมาเป็นสะพานในการก้าวไปสู่ความสำเร็จในการทำงาน ดังนั้น อย่าดูถูกหรือมองข้ามประสบการณ์คนรุ่นก่อนว่าโบราณคร่ำครึไม่ทันสมัย

#ไม่ลืมใส่ใจการบริหารของคนแบบเก่า

ใครที่อยากประสบความสำเร็จในการทำงาน จงเรียนรู้เทคโนโลยีและเครื่องมือการบริหารจัดการสมัยใหม่ให้มาก ควรนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่มาทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลเหลือน้อยลง เช่น ใช้อินเทอร์เน็ตทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพงาน แต่ควรมีเวลาพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานแบบซึ่งหน้าบ้าง ไม่ใช่อะไรก็ให้เทคโนโลยีพูดแทน อนึ่ง คนรุ่นก่อนๆ เคยทำงานในองค์กรเดียวกัน ถึงแม้จะจากกันไปกี่ปีเวลามาเจอกันความสัมพันธ์ยังแน่นแฟ้น จึงอยากให้คนทำงานรุ่นใหม่อย่าลืมวัฒนธรรมการทำงานร่วมกันของคนรุ่นก่อนๆ ยิ่งเทคโนโลยีก้าวไกล แต่คนที่ใช้เทคโนโลยีเป็นอย่างเดียวอาจไม่ประสบความสำเร็จ แต่คนที่จะประสบความสำเร็จจำเป็นต้องเข้าใจคนมากขึ้นด้วย

#มีวินัยนำพาตัวเองให้อยู่รอด

ความก้าวหน้า ความทันสมัยในด้านต่างๆ มักจะเป็นดาบสองคมเสมอ ยิ่งเทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามากขึ้นเท่าไร ยิ่งทำให้คนเกิดกิเลสมากขึ้นเท่านั้น เช่น เทคโนโลยีการสื่อสารก้าวหน้า ยิ่งทำให้คนอยากได้โทรศัพท์มือถือ มีธุรกิจบัตรเครดิต มีธุรกิจซื้อสินค้าแบบเงินผ่อน ฯลฯ ยิ่งทำให้คนเกิดความอยากที่จะสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ดังนั้น คนทำงานรุ่นใหม่จึงต้องเจอกับสิ่งล่อตาล่อใจที่จะทำให้เกิดกิเลสมากกว่าคนทำงานรุ่นก่อนๆ พูดง่ายๆ คือคนรุ่นใหม่มีความยากลำบากในการดูแลตัวเองมากกว่าคนรุ่นเก่า เพราะสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยสิ่งล่อใจในด้านต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ดังนั้น คนทำงานรุ่นใหม่จึงต้องมีความเข้มงวดกับการปกครองและดูแลตัวเองให้มากกว่าคนทำงานรุ่นก่อนๆ

#เก็บสะสมเสบียงเพื่ออนาคต

คนทำงานรุ่นก่อนๆ บางคนเกษียณอายุแล้วไม่มีเงิน แต่กลับไปอยู่บ้านก็ดำรงชีวิตอยู่ได้ เพราะที่บ้านมีมรดกจากพ่อแม่ หรือไม่ก็ดำรงชีพแบบพอเพียง แต่คนรุ่นใหม่เรียนจบมาพร้อมกับการขายนาไร่ของพ่อแม่ ถ้าทำงานไปแบบไม่เก็บสะสมอะไรไว้จะใช้ชีวิตบั้นปลายได้อย่างไร ดังนั้น สิ่งที่คนรุ่นใหม่ควรสะสมเป็นเสบียงให้กับชีวิตระยะยาวคือ ประสบการณ์ชีวิตทั้งในงานและนอกงาน สะสมความดี สะสมเงินทองไว้ใช้จ่ายในยามจำเป็น สะสมความสัมพันธ์กับเพื่อนฝูง สุดท้ายอาจต้องสะสมธรรมะไว้ในใจบ้างเพราะชีวิตคนเรายิ่งอยู่นานเท่าไร สิ่งรุมเร้าที่จะเข้ามาในชีวิตก็มีมากขึ้น