Bangkok post> Jobs > Career guide

ก่อนมหกรรมโดนเลย์ออฟจะมาถึง ยังมีงานอยู่ต้องรักษาตำแหน่งไว้ให้ดี!

 

เรื่องแบบนี้มาไม่รู้เนื้อรู้ตัวแต่ก็ได้เห็นพี่น้องในวงการออฟฟิศหลายคน บริษัทต้องปิดกิจการและจากไปแบบกะทันหัน ถ้าคนที่รู้วงในมาก่อนคงได้เตรียมตัวเอาไว้ก่อนบ้าง แต่คนที่ยังมีภาระทางบ้าน เครียดเลยสิ ทีนี้จะทำยังไงดี ไม่มีใครอยากให้เกิดวันนั้น ถ้าวันนี้ยังมีโอกาสทำงานอยู่ ขอทำให้ดีที่สุด อย่าประมาท

     1. ทำงานให้บริษัทรู้สึกว่าเราสำคัญมาก เพราะเป้าหมายคนที่บริษัทจะเชิญให้ออกไปก่อนเป็นอันดับแรกๆ คือคนที่บริษัทหาจ้างใครที่ไหนมาทำแทนได้แบบไม่ยาก หรือจ้างเด็กรุ่นใหม่สตาร์ทเงินเดือนหมื่นกว่าๆ ก็ยังคุ้มกว่า สดกว่าด้วย ไม่ว่าเราจะทำงานอะไรก็ตาม ให้เราโชว์ฝีมือเต็มที่ คุ้มค่ากับการจ้าง (แต่ก็ไม่ใช่ทำมากเกินไปไม่รู้เดือนรู้ตะวันจนตัวเองเจ็บป่วย) ครีเอทีฟกับสิ่งที่ทำประมาณว่าขาดเราไป เขาต้องเสียดายน่ะ อันนี้ถ้าบริษัทไม่ปิดจริงๆ ก็น่าจะเป็นคนหลังๆ ที่เขาคิดจะให้ออก

    2. ใช้เงินแบบมีสติและต้องมีเงินเก็บสำรอง ไม่ใช่ว่าให้รัดเข็มขัดเรื่องเงินทองช่วงที่เสียวๆ จะโดนเลย์ออฟเท่านั้นนะ ต้องคิดไว้ตลอดว่าถ้าพรุ่งนี้โดนเชิญออก เราจะอยู่ได้มั้ยไปอีก 2-3 เดือน (เป็นอย่างเร็ว) ระหว่างหางานใหม่ เราจะมีตังค์ซื้อข้าว จ่ายค่าหอ ไปไหนมาไหนได้ไม่ลำบากมั้ย

    3. สร้างคอนเนคชั่นเอาไว้ให้ดี เป็นคนไนซ์ไม่ว่ากับใคร เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าวันหนึ่งเพื่อนร่วมงานของเราอาจจะลาออกไปเป็นเจ้าของกิจการ เห็นเราเป็นคนทำงานดีมากกกก อยากได้เราเป็นหุ้นส่วน พากันรวยไปด้วยกัน หรือเมื่อไหร่ที่เราโดนเลย์ออฟ ก็อาจจะมีใครบางคนที่เคยดีลงานด้วยชวนไปทำงานทันทีวันรุ่งขึ้นเลยก็ได้

    4. ช่วยกันประหยัดเท่าที่จะทำได้ คิดดูว่าถ้าเราเซฟงบให้บริษัทได้คนละนิดละหน่อย แต่ถ้าร่วมใจทำกันทุกคน ก็ไม่แน่ว่าทุกคนอาจจะผ่านวิกฤตนี้ไปได้ หรืออย่างน้อยฝึกทำงานที่คิดถึงองค์กรเอาไว้ก็ทำให้เราเป็นพนักงานที่ดีคนหนึ่งเลยนะ

    5. ซื่อสัตย์ไม่มีวันตาย ยิ่งทำงานไปเรื่อยๆ เราจะรู้ว่าคนที่ทำงานด้วยความไม่ซื่อสัตย์ เขาเอาผลประโยชน์บางอย่างเข้าตัว สุดท้ายแล้วไม่มีใครจบสวยซักคน โดยเฉพาะช่วงที่บริษัทมีปัญหาใกล้จะเลย์ออฟคน บางบริษัทจะมีการตรวจสอบแบบละเอียดยิบว่าเกิดอะไรขึ้น เกิดจากอะไร สาวไปเรื่อยๆ เจอตอกันแทบทุกราย อย่าเอาตัวไปเกี่ยวข้องด้วยเด็ดขาด

    6. ศึกษากฎหมายป้องกันตัว ถ้าเจอบริษัทแฟร์ๆ จ้างออกเป็นธรรมก็ดีไป แต่บางบริษัทก็ปิดไปดื้อๆ บอกไล่หลังว่า “อยากได้ชดเชยก็ไปฟ้องเอาสิ” เพราะคิดว่าพนักงานตัวเล็กๆ จะมีเงินจ้างทนายขึ้นโรงขึ้นศาลได้ไง แล้วก็คงไม่มีใครอยากเสียเวลาหรอก แต่ความจริงวิธีเรียกร้องก็ไม่ยากเกินไป กฎหมายคุ้มครองแรงงานมีอยู่ อ่านแล้วสู้เพื่อสิทธิ์ตัวเองได้

    7. อย่านอยด์ ทำหน้าที่ตัวเองต่อไป ข่าวกระพือมาว่าบริษัทจะเลย์ออฟบ้าง จะปิดตัวบ้าง ทำให้ใจคอไม่ดี เอาแต่คิดว่าต้องหางานใหม่ ทำที่เก่าไปแบบไม่แคร์ เตรียมทิ้งยานแม่ว่างั้น แต่ใจเย็นๆ เอาไว้ก่อน เตรียมแผนสำรองเผื่อว่าเป็นเราโดนจะทำไง บางทีบริษัทไม่จ้างออก แต่ใช้วิธีย้ายแผนกกดดันให้เราลาออกเอง เจอแบบนี้จะรับมือแบบไหน เมื่อไหร่ถึงเวลางานเราก็ทำหน้าที่ตัวเองต่อไป ตัดทุกเรื่องออก อะไรจะเกิดก็เกิด ทุกอย่างมีทางออกเสมอ โชคดีนะคะสาวคลีโอทุกท่าน