Bangkok post> Jobs > Career guide

เปลี่ยนงานบ่อยไม่ดีไฉน

 

     ทราบหรือไม่ว่า การเปลี่ยนงานบ่อยๆ ไม่ส่งผลดีต่อตัวคุณเลย มันทำให้คุณไม่มีประสบการณ์ที่ต่อเนื่อง เหมือนกับว่ารู้หลายอย่างจากที่ทำงานหลายที่ แต่ก็ยังไม่ลึกซึ้งกับอะไรสักอย่าง ทุกๆ ครั้งที่ย้ายที่ทำงาน คุณก็ต้องเริ่มเรียนรู้ใหม่ และพอคุณจะเริ่มเข้าที่เข้าทาง คุณก็พบว่างานที่คุณทำอยู่นั้นไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการ นั่นเป็นสาเหตุหนึ่งที่คุณยังไม่ก้าวหน้าไปถึงไหน

     มีหลายเหตุผลที่ทำให้คนเราเปลี่ยนงานบ่อยๆ อาจเป็นเพราะเขายังไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรอย่างที่คุณสามารถเป็น หรือไม่ก็ยังไม่พร้อมที่จะลุยกับงานท้าทายที่รออยู่ อันนี้จะพบมากในเด็กจบใหม่ พวกเขายังไม่รู้ว่าในชีวิตการทำงานนั้น เป็นโลกของผู้ใหญ่ที่เต็มไปด้วยความรับผิดชอบมากมาย เมื่อเห็นว่างานหนักเงินน้อย  ก็หางานที่ใหม่เรื่อยไป จนกว่าจะเจองานที่ถูกใจเข้าสักวัน การเปลี่ยนงานบ่อย ส่งผลเสียมากกว่าผลดี เมื่อนายจ้างเห็นประวัติการทำงานของคุณในแต่ละที่เป็นแค่ช่วงเวลาสั้น มันเป็นการส่งสัญญาณบางอย่างที่ไม่ค่อยดีนักให้แก่นายจ้าง ทำให้เขาไม่มั่นใจว่าคุณจะอยู่กับเขาได้นาน หรือทุ่มเททำงานให้เขาอย่างเต็มที่หรือไม่

     โดยทั่วไปแล้วการทำงานในแต่ละที่ควรใช้เวลาไม่น้อยกว่า 2 ปี ปีแรกสำหรับการเรียนรู้งาน เรียนรู้วัฒนธรรมองค์กร ปีที่สองสำหรับการทำประโยชน์และผลงานให้กับองค์กร ดังนั้นกว่าที่คุณจะได้เก็บเกี่ยวดอกผลที่ได้ลงแรงไปนั้นจึงต้องใช้เวลา อย่างน้อย 2 ปี หากคุณเปลี่ยนงานก่อนหน้านั้น ก็เท่ากับว่าคุณยังไม่ทันได้สร้างผลงานสักเท่าไหร่  องค์กรใหญ่ๆ หลายที่มีการฝึกอบรมให้กับพนักงาน ซึ่งการลงทุนในครั้งนี้ ใครที่เป็นนายจ้างก็อยากให้การลงทุนนั้นคุ้มค่าที่สุด ดังนั้นในการคัดเลือกผู้สมัคร นายจ้างก็ต้องพิจารณาจากจุดนี้ประกอบด้วย ระหว่างผู้สมัครที่มีประวัติเปลี่ยนงานบ่อย กับผู้สมัครที่มีประวัติการทำงานที่มั่นคง คุณคิดว่านายจ้างจะเลือกคนไหนเข้าทำงาน แน่นอนนายจ้างย่อมต้องเลือกคนที่มีเป้าหมายในการทำงานไปในทิศทางเดียวกันกับองค์กร ผู้สมัครที่ทำงานในแต่ละที่เป็นเวลานานย่อมมีภาษีดีกว่าผู้สมัครเปลี่ยนงานไปเรื่อยๆ อย่างน้อยก็ทำให้นายจ้างมั่นใจในระดับหนึ่งว่า พนักงานที่เขาคัดเลือกมาจะไม่สละเรือกลางคัน ปล่อยให้เขาลงทุนไปฟรีๆ โดยไม่ได้ประโยชน์ตอบแทนกลับมา

     ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เข้าข่ายเปลี่ยนงานบ่อย ถึงเวลาแล้วที่คุณควรจะหาตัวเองให้เจอ เพื่อที่คุณจะได้มุ่งเป้าหมายไปที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งที่คุณต้องการอย่างแท้ จริง เริ่มจากการหาข้อมูล ดูว่าเราสนใจในเรื่องใด จากนั้นก็สอบถามจากเพื่อนฝูงที่รู้จักกับคนที่ทำงานในสายงานที่คุณสนใจ เพื่อที่จะพูดคุย ซักถามข้อมูลต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจของคุณ เช่น ความคาดหวังขององค์กร สไตล์การทำงาน และบทบาทหน้าที่ในตำแหน่งที่คุณสนใจ ซึ่งคุณอาจจะไม่ได้ข้อมูลทั้งหมด แต่อย่างน้อยก็จะทำให้คุณได้ไอเดียบางอย่าง เมื่อคุณมีทิศทางที่ชัดเจนขึ้น โอกาสที่จะเปลี่ยนงานบ่อยๆ จะน้อยลง

     และเมื่อคุณหาตัวเองเจอแล้ว ต่อไปก็คือหาองค์กรที่เขาเปิดโอกาสให้คุณได้ฝึกอบรม นำทักษะและความรู้ที่ได้จากการอบรมมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาผลงาน ซึ่งจะนำพาคุณไปสู่ความสำเร็จในหน้าที่การงานที่มั่นคง ที่ไม่มีใครสามารถเอาไปจากคุณ เพราะมันจะเป็นชื่อเสียงและเกียรติประวัติติดตัวคุณตลอดไป