Bangkok post> Jobs > Career guide

7 สเต็ป รับมือเมื่อเจองานที่ใช่ แต่ขุ่นแม่ดันไม่ปลื้ม!!!

 

     หนึ่งในปัญหาโลกแตกที่เราเชื่อว่ากว่า 80 เปอร์เซ็นของวัยรุ่นที่พึ่งจบใหม่ๆ (อย่างเรา) ต้องเจอกันทุกคน ทั้งๆ ที่เราคิดว่านี่แหล่ะคือก้าวใหม่ของการเป็นผู้ใหญ่อย่างแท้จริง แต่สำหรับขุ่นพ่อขุ่นแม่…นี่กลับกลายเป็นอีกหนึ่งช่วงชีวิตของเราที่เขากังวลมากสุดๆ ซะงั้น ก็นี่มันเรื่องคอขาดบาดตายเชียวนะ เรื่องงานเนี่ย พ่อแม่เขารู้สึกว่าเลือกทีนึง งานนี้จะต้องอยู่กับเราไปตลอดชีวิต ยิ่งเริ่มเร็วในงานที่เขาวางแผนให้ ยิ่งมั่นคงเร็วงี้ เราเองก็เข้าใจนะว่าเขาเป็นห่วง แต่บางทีก็ต้องไฟท์เพื่อตัวเองบ้าง ถ้าเรามั่นใจว่างานที่เราเลือกคืองานที่เรารัก และใช่กับเราจริงๆ เราก็ต้องสู้ สู้ให้ถึงที่สุด สู้ให้ได้มันมา! งานนี้เราขอขุดเอาประสบการณ์ตรงมาตีแผ่ กับ 7 สเต็ปที่จะทำให้พ่อแม่ที่รักของเราต้องยอมใจอ่อน แล้วเชื่อมั่นในตัวเราได้แน่นอน!!
 

1 ขุ่นแม่ขาฟังหนูก่อน งานที่หนูปลาบปลื้มนี่มันดีอย่างงี้ค่ะ!!

เริ่มแรกเราต้องเข้าใจก่อนว่า พ่อแม่โตมาคนละยุคสมัยกับเรา บางครั้งเขาทำงานยุ่งจนไม่ทันได้สังเกตว่า ตอนนี้ในชีวิตจริงมันมีงานต่างๆ รูปแบบใหม่ ต่างไปจากสมัยก่อนมาก เลยทำให้เขารู้สึกว่า งานที่เราว่าดีอย่างนู้นดีอย่างนี้ มันดูแปลกใหม่ แต่ว่าไม่มั่นคงเอาซะเลย เพราะฉะนั้นหน้าที่ของเราคืออะไรละคะ? ง่ายๆ เลย จัดแจงอธิบายให้เขาฟังซะ มีรูปประกอบ มีข้อมูลเตรียมมาให้แน่น ถ้ามีตัวชิ้นงานว่า “ถ้าหนูทำงานที่นี่ สิ่งที่หนูจะทำออกมาหน้าตาแบบนี้นะคะแม่” ให้เขาเห็นชัดๆ ไปเลย อย่างน้อยเขาต้องเริ่มเปิดใจขึ้นมานิดนึงแหล่ะ เรามั่นใจ!
 

2 วาดตารางให้ดูไปเลย ว่าเราวางแผนไว้จริงจัง ไม่ต้องห่วงหนูน้า!

ถ้าสเต็ปแรกผ่านไป ขุ่นแม่เขาก็รู้แล้วแหล่ะ ว่าไองานที่เราว่านี่มันเป็นยังไง แต่แม่ดั๊นยังไม่โอเค ยังรู้สึกว่างานนี้มันก็ดูไม่มั่นคงอยู่ดี จะทำไปได้นานแค่ไหนก็ไม่รู้ กรี๊ด เอาไงดี!! เอางี้นะ เรามาลองนั่งวิเคราะห์ดูแล้ว บวกจากการแอบสืบสอบถามเนียนจากคนใกล้ตัวขุ่นพ่อขุ่นแม่ อย่างเช่นน้องสาวไรงี้ นางไปสืบมาแล้วเจอว่า แม่เขาก็แค่เป็นห่วง กลัวว่างานแบบนี้ ที่มันดูไม่มั่นคงในสายตาเขาเนี่ย เราทำไปเรื่อยๆ ด้วยนิสัยการใช้เงินของเราที่เขาเห็นมาตั้งแต่เล็กจนโต กับเงินเดือนเท่านี้ เราอาจจะไม่มีเงินเก็บ ก็ดูเราใช้เงินซื้อนู่นซื้อนี้แต่ละอย่าง จะไม่ให้เขากลัวได้ไง แถมโลกสมัยนี้เศรษฐกิจมันก็แย่เหลือเกิน ที่นู่นที่นี่ปิดเป็นว่าเล่น พ่อแม่เขาก็ต้องกลัวเป็นเรื่องธรรมดา งั้นเอางี้!! วางแผนให้ดูแบบจริงจังไปเลย เขียนลงบนกระดาษให้เขาดู ว่าเราจะได้เงินเดือนเท่าไหน เดือนนึงจะออมเงินได้ขนาดไหน กี่ปีจะมีเงินเก็บเท่านี้ ถ้าโชคร้ายวันนึงเราต้องออกจากงานนี้ เรามีแผนสำรองยังไง เอาให้ขุ่นพ่อขุ่นแม่มั่นใจ ว่าเราดูแลตัวเองได้หายห่วงแน่นอน!
 

3 คนที่เขาทำงานนี้แล้วเลิศ แล้วปัง ก็มีนะคะแม่!

ถ้ามาถึงขั้นนี้คุณผู้ปกครองที่เคารพรักยิ่งของเราเขายังนึกภาพไม่ออก ว่าไองานที่เราอยากทำนักหนาเนี่ย มันจะประสบความสำเร็จขึ้นมาได้ยังไง งานโชว์ไอด้อลให้พ่อแม่ดูต้องมาค่ะ! เอาให้เขาดูเลยว่า ในสายอาชีพ ในจ้อบที่เราอยากทำเนี่ย มีใครทำอยู่บ้าง แล้วคนเหล่านี้เขาประสบความสำเร็จยังไง มีรูป มีผลงานของเขาประกอบมาด้วยได้ยิ่งดี เอาให้เห็นกันจะๆ เล่าให้นางเห็นภาพ ชนิดที่ว่านางฟังไปฟังมา จะแอบปลื้มคนๆ นี้ตามเราโดยไม่รู้ตัวไปเลย!
 
4 งานที่ขุ่นแม่ว่าดี ถ้ามันไม่ใช่กับหนู ยังไงมันก็พังอ๊ะ

มาถึงสเต็ปนี้ที่แม่เขาเริ่มใจอ่อนละ แต่เขาก็ยังมองว่า ไองานที่เขาอยากให้เราทำเนี่ย มันก็ยังดูดี ดูปลอดภัยกว่างานที่เราอยากทำอยู่ดี งั้นเราต้องยอมดื้อกับเขาเบาๆ บอกเขาตรงๆ ไปเลยว่านิสัยเราเป็นแบบนี้ ไลฟ์สไตล์เราเป็นแบบนี้ ให้เราไปทำงานที่ไม่ได้ชอบเอาซะเลยยยยยยยย แถมยังดูไม่เป็นตัวเราสุดๆ เราอาจจะทำไปแบบโคตรจะไม่มีความสุข จนงานนั้นพัง เจ้านายไม่รัก กลายเป็นโรคซึมเศร้า แทนที่จะดีเหมือนที่แม่ฝันไว้ อาจจะพังไม่เป็นท่าก็ได้ เอ้อ!
 

5 ตัดสินใจครั้งใหญ่หลวง หนูจะอยู่ด้วยลำแข้งตัวเองให้ได้!

ท่าไม้ตายต้องมา เล่นจริง เจ็บจริง ไม่ใช้สแตนอิน นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลยนะ เรื่องเงินๆ ทองๆ เนี่ย แต่ถ้าเราจะไฟท์เผื่องานที่เรารักแล้ว เราต้องพิสูจน์ตัวเองให้เขาเห็น ว่าเราสามารถอยู่ด้วยเงินตัวเองดูแลตัวเองได้ ไม่ทำให้เขาลำบากแน่ เพราะจริงๆ แค่พ่อแม่ไม่จ่ายเงินค่าขนมให้เราชีวิตแกอาจจะสบายขึ้นผิดหูผิดตา (อ้าว) แต่นั้นแหล่ะ ถ้าวิธีนี้เราทำได้จริงๆ อยู่ได้จริงๆ รับรองเลยว่านอกจากเราจะพราวด์กับตัวเองสุดๆ แล้ว พ่อแม่จะมองเราเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นแน่นอน!
 

6 ถ้าโชคดีไฟท์มาได้สำเร็จ โชว์ให้พ่อแม่เห็นเลยว่าเราแฮปปี้ + พราวด์ขนาดไหน

กรี๊ดดดดด! ในที่สุดก็ได้มาเริงระบำอยู่ในงานที่ตัวเองรัก!!! แต่เดี๋ยวก่อน! นี่มันเป็นแค่จุดเริ่มต้น อย่าลืมนะว่าในทุกงานมันมักจะมีอุปสรรคเสมอ ถึงจะเป็นงานที่เรารักก็เถอะ มันก็จะมีจุดนึงที่แบบ คือแบบ ไม่โอเคอะ เลิกดึกบ้าง ทำงานออกมาไม่ดีบ้าง จนเราเฟลกับตัวเอง แต่นั่นแหล่ะ เราต้องผ่านพ้นมันไปให้ได้ ก็เราเลือกแล้วนี่เนอะ จำไว้ว่าจริงๆ แล้วที่พ่อแม่เขาอยากให้ทำงานที่เขามองว่าดี มองว่ามันมั่นคง ก็เพราะว่าเขาเป็นห่วงเรานั่นแหล่ะ เพราะฉะนั้นเราต้อง สตรอง!! อย่าให้เขารู้สึกกังวล หรือผิดหวังในตัวเราเด็ดขาด!
 

7 ถ้าโชคไม่เข้าข้าง คุยกันยังไงก็ไม่รู้เรื่อง ลองให้แม่เห็นไปเลย ว่ายังไงมันก็ไม่เวิร์ค!!

ไม่เป็นไรนะ… เราเข้าใจว่ามันอาจจะมีโมเม้นที่เกินจะไฟท์ แล้วเราก็ไม่ไหวจริงๆ ถ้าจะต้องขัดใจพ่อแม่ขนาดนั้น งั้นก็ลองไปเลยให้มันรู้ซักตั้ง ว่างานที่ขุ่นแม่อยากให้ทำสุดๆ เนี่ย มันจะเป็นยังไง ถ้าไปทำแล้วแบบ เอ๊ะ ก็สนุกดีนะ ก็โชคดีไป แต่ถ้าทำแล้วไม่ใช่ แม่เขาจะได้รู้ไปเลยว่า โอเค เรามาลองให้แล้วนะ แต่มันไม่ใช่จริงๆ เราไม่แฮปปี้สุดๆ ไปเลย แล้วเราโหยหางานในฝันของเราขนาดไหน คุยกับเขา บอกให้เขารู้ ถ้าเขาเห็นในความพยายามของเราที่พยายามมาลองให้เขาดูแล้ว แต่มันไม่ใช่จริงๆ เราว่างานนี้ขุ่นพ่อขุ่นแม่รายไหนก็ต้องยอมใจอ่อน ก็ต้องเข้าใจเราแล้วแหล่ะ สู้ๆ นะ เราเคยผ่านมันมาแล้ว เราเป็นกำลังใจให้!!!