ต้องยอมรับกันตามตรงว่า “แอร์โฮสเตส” เป็นอาชีพในฝันของสาวๆ หลายๆ คน เพราะเบื้องหน้าที่ดูดี ได้ไปเที่ยวนู่นนี่นั่น รายได้ก็ดี แต่มีกี่คนที่จะรู้ว่าเบื้องหลังอาชีพแสนสวยนี้มีความจริงอะไรซ่อนอยู่ จริงๆ บางเรื่องก็บอกก่อนว่า เออ มันก็ไม่ได้เศร้าขนาดนั้น เพราะพวกเธอเลือกที่จะมองมันในมุมตลกๆ มากกว่า จะได้มีแรงต่อสู้กับงาน กับอาชีพที่รักต่อไปได้ ความจริงที่ว่านี้มีอะไรบ้าง เราเองก็อยากรู้แล้ว งั้นไปฟังจากปากพวกเธอพร้อมๆ กันเลย!

#1 สกิลการแต่งหน้าระดับเทพ 5 นาที ตบๆๆๆ เสร็จ!

นี่เป็นสิ่งที่เราได้ยินจากปากพวกเธอเป็นเสียงเดียวกันว่าก่อนจะมาเป็นแอร์นี่ สกิลแต่งหน้าระดับไก่กา แต่งเป็นชั่วโมงก็ยังไม่เสร็จ แถมยังไม่สวย แต่พออาชีพและเวลาบีบคั้น งานตบทีเดียวอยู่ก็มา ยิ่งวันไหนที่บินเช้ามากๆ รีพอร์ทตีสี่ครึ่ง คือแบบบบบ… กว่าจะต่อสู้กับหนังตาตัวเองได้ก็ยากลำบากมากแล้ว จะให้มาประณีตบรรจงแต่งหน้าก็ไม่ใช่ปะ เอาเวลาไปนอนดีกว่า ทีนี้แหล่ะฟ้าเลยประทานพรสวรรค์มาให้ซะเลย ตบนู่นนิด ปัดนี่หน่อย ดัดๆๆ ติดขนตา โป๊ะ!! เสร็จ!! ไปค่ะ ไปบินได้

#2 ผมไม่สระนี่แหล่ะ ทำให้เราออกมาสวยเป๊ะกว่าใครเพื่อน

เบื้องหลังความงามของผมสุดเนี๊ยบ ชนิดที่ลมจะแรง เทอร์บูแลนซ์จะกระหน่ำแค่ไหน ผมก็ไม่กระดิก หลายคนอาจจะคิดว่า “เห้ยแกๆ ดูดิแอร์คนนี้ผมเป๊ะมากอะ เขาใช้เจลยี่ห้อไรไม่รู้เนอะ?” แต่ผิดถนัดค่ะ อะโอเค เจลดี แว๊กซ์ดี ปาดลงไปบนผมทีก็อาจจะช่วยให้ดูสวยเนี๊ยบขึ้นมาได้ในพริบตา แต่หารู้ไม่ว่าต้นเหตุที่แท้จริงของผมสวยมันปล๊าปแบบนี้ ก็คือการไม่สระผมต่างหากเล่า ก็นะ บินติดๆ กันหลายวัน จะเอาเวลาที่ไหนไปสระ แถมบางทีถ้าคืนนี้สระผม แล้วพรุ่งนี้เช้าต้องไปบิน บอกเลยว่า จะทำให้การทำผมใช้เวลานานขึ้นไปอีกระดับ ก็ผมมันเบา มันฟู มันไม่มัน มันไม่อยู่ทรงอะ ไม่ได้ตั้งใจจะซกมกเลยจริงจริ๊งงงง!

#3 ความจริงที่อยากบอก ทำไมพวกเราต้องลากกระเป๋ามาทุกวัน

หลายคนอาจจะสงสัยว่าบางทีบินไปกลับใกล้ๆ กรุงเทพฯ-ขอนแก่นแค่นี้ ทำไมพวกนางต้องลากกระเป๋าไปด้วย กระเป๋าถืออย่างเดียวไม่พอหรอ? เอ๊ะ หรือมันจะเป็นพร็อพ? บอกเลยค่ะว่าคุณเข้าใจผิดไปถนัด! จริงๆ แล้วการลากกระเป๋าไปมานี่มีเหตุผลที่จริงจังในระดับนึงเลยนะจะบอกให้ เพราะต่อให้จะไปไฟลท์ใกล้ไกลขนาดไหน พวกเธอก็จำเป็นจะต้องมีเสื้อผ้าสำรองพกติดตัวไปด้วย ทั้งยูนิฟอร์ม ทั้งชุดลำลอง เครื่องสำอางค์ ไฟฉาย ก็เพราะว่าสิ่งไม่คาดคิดอาจจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ ถึงจะโอกาสน้อยมากก็เถอะ เครื่องขัดข้อง ยังบินกลับมาไม่ได้ ต้องค้างคืนกระทันหันที่สนามบินอื่น จังหวัดอื่น ประเทศอื่นไรงี้ บอกเลยว่าพวกเธอต้องเตรียมพร้อมอยู่ตลอดๆ  ไม่ใช่แค่ลากเดินไปเดินมาสวยๆ นะจ๊ะบอกเลย!

#4 งานสติต้องมาสุดๆ ก็โมเม้นเวลคัมออนบอร์ดนี่แหล่ะ

งานตาไว ปากไว สมองไวต้องมา เพราะเวลาพวกเธอต้อนรับผู้โดยสารขึ้นเครื่องมาแต่ละที ไม่ใช่แค่ยิ้มสวยๆ แล้วก็ปล่อยผ่านไปนะ นอกจากจะต้องสร้างเฟิร์สอิมเพรซชั่นที่ดีแล้ว เรายังต้องตาไว เวลคัมผู้โดยสารได้หลายภาษา ทั้ง ไทย จีน อังกฤษ ฝรั่งเศส อินเดีย อะไรก็ว่าไป แถมยังต้องมองเลขเที่ยวบิน วัน และเวลา จุดหมายปลายทาง บนบอร์ดดิ้งพาส ให้ถูกต้องตรงกับไฟลท์ที่เราจะไปด้วย เพราะมันเคยมีมาแล้ว ไอเหตุการณ์ที่ผู้โดยสารหลุดมาขึ้นไฟลท์ผิด จะไปกระบี่ แต่ดันได้ไปลงที่อุดรงี้ เงิบกันไปเลยจ้า เพราะฉะนั้นคราวหน้าเวลาขึ้นเครื่อง อย่าเหวี่ยงพวกเธอเลยว่าจะดูอะไรกันนักกันหนา กับแค่บอร์ดดิ้งพาสเนี่ย ก็บอกไปแล้วว่านั่งตรงไหน! เอาใหม่เน๊อะ พวกเธอฝากมาย้ำกันอีกครั้งว่าพ๊อยท์หลักๆ พวกหนูไม่ได้จะดูเลขที่นั่งนะ แต่จะขอดูเลขเที่ยวบินต่างหากค่าาาา

#5 น้องคิตตี้น้อยน่ารัก ที่เป็นไปได้ขอไม่เจอดีกว่าโน๊ะ!

ตาย แล้ว เราได้ยินตอนแรกก็ว่า… อะไรอะ ชื่อน่ารักเชียว งื้มๆ แต่หารู้ไม่ว่าเป็นสิ่งที่พวกเธอขยาดสุดๆ เพราะไอเจ้าน้องคิตตี้ที่ว่าเนี่ยยยยยย มันคือเจ้าอึอึ๊ที่ติดอยู่ในคอห่านต่างหากกกก! กรี๊ดดดดดๆๆๆ พวกเธอบอกว่าถึงจะขยาดขนาดไหนก็ต้องอดทน นานๆ จะเจอที เอาน้ำร้อนมาราดให้น้องละลายหายไปแทบไม่ทัน โอ้โห เบื้องหลังชีวิตสวยๆ มีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ เราเป็นกำลังใจให้เลย!

#6 ประตูเครื่องบิน กับประตูห้องน้ำ คนละอันกันนะคะ สังเกตดีๆ เถอะ หนูขอ…

หลายคนอาจจะเคยเห็นข่าว ที่ว่ามีผู้โดยสารเกือบจะเดินไปเปิดประตูเครื่องบิน ตอนที่เครื่องยังอยู่บนฟ้า เพราะคิดว่า นี่ต้องเป็นประตูห้องน้ำแน่ๆ เลย!! โอ๊ยยยยย นึกแล้วก็หวาดเสียวแทน เพราะพวกเธอบอกว่าบางทีก็ทำงานยุ่งๆ ไม่ทันได้สังเกต เอาเป็นว่าประตูห้องน้ำอยู่ก่อนถึงครัวลูกเรือนะจ๊ะคุณผู้โดยสารทั้งหลาย

#7 เดินเก็บขยะแบบเบลอๆ

บางทีไฟลท์เช้าตรู่ หรือไม่ก็ไฟลท์ดึกแบบสุดขีด หรือจะเป็นไฟลท์ที่ผู้โดยสารเยอะสุดๆ ทั้งไทย จีน ฝรั่ง แขก ทำเอาแอร์สาวสวยทั้งหลายมีเบลอ มีมึนตึ๊บเป็นธรรมดา มีสาวคนนึงเล่าว่า เธอเบลอขนาดที่ว่าเดินเก็บขยะในเคบิ้นอยู่ดีๆ แทนที่เธอจะถามว่า “มีขยะฝากทิ้งไหมค้า?” เธอดันเบลอไปถามว่า “รับน้ำอะไรดีค้า?” ซะงั้น!! ตายแล้วแม่คุณณณณณณ ผู้โดยสารเห็นรถเข็นขยะที่นางเข็นมาด้วย แต่เจอประโยคนี้เข้าไปถึงกับงงไปเลยจ้า!

#8 เปิดม่านลงหัวผู้โดยสาร ฮือ… หนูขอโทษ

ถ้าพูดถึงสายการบินใหญ่ๆ บินไฟล์ไกลๆ เรื่องแบบนี้อาจจะไม่ค่อยเกิดขึ้น แต่สายการบินขนาดย่อมเยาว์ที่เน้นบินในประเทศหรือบินไปประเทศใกล้ๆ ซึ่งเขาจะใช้เครื่องขนาดเล็กหน่อย เลยทำให้การแบ่งคลาสระหว่างผู้โดยสารชั้นประหยัด กับชั้นพรีเมี่ยม ขวางกั้นกันด้วยม่านบางๆ เท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เวลาเครื่องบินจะเทคออฟแลนดิ้งแต่ละที สาวๆ ลูกเรือทั้งหลายก็ต้องเก็บม่านให้เรียบร้อยเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารที่ รักยิ่ง พอเครื่องอยู่ในความสูงที่ปลอดภัยแล้ว สัญญาณรัดเข็มขัดที่นั่งดับ พวกเธอก็ค่อยไปแกะผ้าม่านนั้นออก แต่บางทีความซวยก็ไม่เข้าใครออกใคร มีแอร์สาวคนนึงเล่าแบบอายสุดขีดว่า เธอเคยแกะผ้าม่านอยู่ดีๆ หล่นใส่หัวผู้โดยสารเข้าให้ ไอเจ็บหน่ะไม่เจ็บหรอกนะ แต่ผ้าม่านคลุมหัวผู้โดยสารเนี่ย ทำเอาทั้งเธอทั้งผู้โดยสารก็อายแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนีไม่แพ้กัน งานขอขมาลาโทษยกใหญ่เลยต้องมาเลยจ้าาา!

#9 สาธิตวิธีอุปกรณ์ฉุกเฉิน ที่ผู้โดยสารหลายๆ คนจับตามอง

นี่แหล่ะไฮไลท์ของงานลูกเรือ เป็นโมเม้นที่พวกเธอต้องออกไปยืนให้สวยสะกดที่สุด และจริงจังที่สุด เพราะเรื่องความปลอดภัยนี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะโหวย แต่อุปกรณ์แต่ละอย่าง บางทีมันก็จะไม่ให้ความรวมมือกับเรา ฝืดบ้าง สายพันกันบ้าง ยิ่งเสื้อชูชีพเนี่ยตัวดีเลย บางทีที่พวกเธอสวมเสื้อชูชีพทีนึง กว่าจะมุดหัวออกมาได้ โอ้โหหห ผมเพ้านี่เยินหมด แต่ยังต้องยิ้มสู้หน้าสวย ขึงขังจริงจังนะจ๊ะ!

#10 ไฟลท์เช้าๆ ก็ทำพิษได้

งานสติหลุดเบาๆ ก็มา เมื่อมีแอร์สาวคนนึงเล่าให้เราฟังว่าเธอทำไฟลท์เช้าตรู่บินกลับมาจากอินเดีย หลังจากรบกับผู้โดยสารมาทั้งคืนแล้วพอถึงเวลาส่งผู้โดยสารลงจากเครื่อง ด้วยความโล่งใจที่จะได้กลับบ้านไปพักซักที บวกกับจิตวิญญาณรักงานบริการของเธอ ทำให้ขณะที่ผู้โดยสารลงจากเครื่อง แทนที่เธอจะบอกละว่า “ขอบคุณมากนะคะ โอกาสหน้าเชิญใหม่ค่า” เธอดันเอ๋อจัดบอกไปว่า “สวัสดีค่า เวลคัมออนบอร์ด” เอ้า!! นางเบลอ นางอยากทำงานต่อซะงั้น (ฮ่า)

#11 ผู้โดยสารหล่อขอจีบ แต่…

งานบนเครื่องมันเหนื่อยนะ พวกเธอขอบอกจากใจจริง เห็นผู้โดยสารน่ารักๆ คิ้วท์บอย หล่อคมเข้มขึ้นมาที มันก็มีกรี๊ดบ้างพอให้ชุ่มชื้นหัวใจ ตลอดทั้งไฟลท์ทำงานไป ก็แอบเหล่หนุ่มน่ารักคนนั้นไป แต่ระหว่างเก็บข้าวของในครัวอยู่ดีๆ นางก็เดินตรงเข้ามาที่ครัวเลยจ้า เหล่าแอร์สาวทั้งหลายก็ลุ้น ก็กรี๊ด ก็เขินกันไปซิ ที่ไหนได้หนุ่มหล่อคนนั้นเดินมาถึงก็ “ตัวเอง… ขอน้ำร้อนหน่อยได้ไหมอ้ะ” ด้วยเสียงที่สูงระดับที่เหล่าแอร์ทั้งหลายต้องยอมแพ้ แค่นั้นไม่พอ “ตะเองชุดน่ารักอะ แล้วนี่ลิปสีอะไร เลิศมากเค้าจะไปสอยมาบ้าง?” โอ๊ยยยย เงิบกันไปค่า เจอเพื่อนสาวเข้าให้!

#12 ชูการ์? เยส พลีส

อะเวลาเสิร์ฟ เครื่องดื่มแต่ละที ยังไงทุกไฟลท์ก็ต้องมีชา กาแฟอยู่แล้ว ก็เป็นหน้าที่ของเหล่าลูกเรือที่จะต้องถามว่า รับน้ำตาลเพิ่มไหมคะ กับคนไทยก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่กับพ่อฝรั่งอารมณ์ดีนี่สิ พอแอร์สาวถามไปหลังจากเสิร์ฟการแฟให้ผู้โดยสารฝรั่งหนุ่มคนนี้เสร็จ เธอก็ถามไปว่า “Sugar?” พ่อหนุ่มขี้เล่นก็ตอบมาเสียงใสเลย “Yes, please. Won’t you come and put it down on me” โอ้โห ทำนองมาเลยค่ะ ทำเอาแอร์สาวคนนี้ไปต่อไม่ถูกเลย!

     รู้อย่างงี้เราก็มองเห็นสัจธรรมเลย ว่าทุกอาชีพก็จะมีทั้งด้านดี แล้วก็ด้านไม่ดี ไม่มีอาชีพไหนที่ดีเลิศสวยหรูไปซะทุกอย่าง หรืออาชีพที่ย่ำแย่ไม่มีอะไรดีเอาซะเลยมันก็ไม่มีหรอกเน๊อะ มันอยู่ที่มุมมองและความรักในอาชีพนั้นๆ ของแต่ละคนมากกว่า ถ้าเราเห็นคุณค่าในตัวเอง แล้วรักในอาชีพของตัวเองมากพอ คลีโอเชื่อว่าไม่ว่าจะเจออุปสรรคอะไร เราก็จะสามารถฝ่าฟันผ่านพ้นมันไป แล้วก็ประสบความสำเร็จในอาชีพที่ตัวเองรักได้แน่นอนจ้า เราเป็นกำลังใจให้!!!