Bangkok post> Jobs > Career guide

เพื่อนร่วมงานขี้เหงา

  • Published: Mar 17, 2016 17:50
  • Writer: Post Today | 1,475 viewed

 

บ้างาน บ้าอำนาจ บ้าชื่อเสียงเกียรติยศ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่ามูลเหตุสำคัญมีที่มาจากความเหงา ใครที่มีเพื่อนร่วมงานเป็นคนขี้เหงา อาจสังเกตได้จากระดับความบ้าในงาน ความบ้าในอำนาจ และความบ้าในชื่อเสียงเกียรติยศของเพื่อนร่วมโต๊ะ สังเกตอย่างเดียวไม่พอ ต้องรู้จักหลีกเลี่ยง (ความบ้าของ) เพื่อนหลีกเลี่ยงอย่างเดียวไม่พอ ต้องช่วยเพื่อนให้หลุดพ้นจากความเหงาและความบ้า ไม่งั้นก็อาจบ้าตามเพื่อนไปด้วย

     สถานการณ์  มีเพื่อนร่วมงานบ้างานที่บ้าคนเดียวไม่พอ เรียกร้องให้เรา (บ้า) ทำแบบเขาด้วย พวกนี้จะขอดหาประโยชน์จากเรา เรียกร้องจากเรา จนบางทีอยากตะโกนบอกเขาว่า อยากบ้าจัง(เล้ย) จะได้ไม่ต้องคิดมาก

     ทางออก  คนพวกนี้มีความคาดหวังในชีวิตสูง อยากทำงานให้ประสบความสำเร็จมากๆ มีอำนาจมากๆ มีชื่อเสียงมีคนรู้จักมากๆ ชีวิตจึงทุ่มเทไปกับสิ่งที่ต้องการ มองดูผิวเผินก็ไม่น่าเหงา เพราะใช้เวลาส่วนใหญ่กับการทำงาน จิตจดจ่ออยู่กับผลตอบแทนในสิ่งเหล่านั้น แต่เขาจะเหงาก็ตอนผลตอบแทนไม่ได้อย่างใจนี่เองคนพวกนี้จะโกรธตัวเอง โกรธคนอื่นในทีมว่าไม่ดี สู้ใครๆ ไม่ได้ มองตัวเองและเพื่อนรอบๆ ข้างต่ำเตี้ย แล้วก็จะรู้สึกเหงามากๆ

หรือแม้แต่จะประสบความสำเร็จก็ยังเหงา เพราะคนพวกนี้ไม่สร้างความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเพื่อนมนุษย์ชอบระแวง ชอบแข่งขัน คิดและเอาแต่ประโยชน์จากคนอื่นไม่แปลกที่คุณจะหน่ายและเหนื่อยต่อเพื่อนร่วมงานขี้เหงาพวกนี้ และไม่แปลกที่คนขี้เหงาพวกนี้ก็จะเหงาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่มีเพื่อนหรือมิตรที่สนิทใจนั่นเอง

     สถานการณ์  ชำเลืองดูเพื่อนร่วมงานรอบๆ ตัว ไม่อยากนับเลยว่ามีคนขี้เหงาบ้างานกี่คน บรรยากาศเหมือนทำงานอยู่ในกรงหนูถีบจักร ที่เต็มไปด้วยความหวาดระแวง ความไม่เข้าใจ เงื่อนไขเยอะขัดขวางขัดแย้ง อุปสรรคที่ทำให้ทำงานไม่มีความสุข

     ทางออก  คนเหล่านี้มักแก้เหงาด้วยการบ้างาน บ้าอำนาจ และบ้าชื่อเสียงเกียรติยศต่อไป กลายเป็นวงจรอุบาทว์ที่ผนวกด้วยความกดดัน ความก้าวร้าวและความเครียดที่เพิ่มดีกรีขึ้นไปเรื่อยๆ ฉากสุดท้ายของความเหงาคือโรคภัยที่มากับความเครียด เช่น อาการจิตประสาท ความดันโลหิตสูง เส้นเลือดในสมองแตก อัมพาตและมะเร็ง อ่านถึงตรงนี้แล้วจึงต้องหลีกเลี่ยงให้เป็น อย่าอยู่ในวังวนของคนขี้เหงาบ้าอำนาจหรือบ้างาน มองโลกและชีวิตในแง่ดี มองเห็นความเป็นไปได้ ไม่ตัดสินถูกหรือผิด ไม่พิพากษาผู้คน คิดแบบเปิดใจ ไม่คิดหยุมหยิม

กล้าบอกตัวเองว่าคิดอย่างไร ส่วนจะบอก "เขา" หรือไม่ ให้ดูความเหมาะสมเป็นเรื่องๆ ไป ที่สำคัญคือตัวคุณเองที่แน่ใจว่าจะสามารถมองเห็นสิ่งดีๆ ที่จะเกิดขึ้นใหม่ๆ ได้เสมอๆ และถ้าเป็นไปได้ ก็ชี้ชวนให้ "เขา" ได้เห็นด้วย