Bangkok post> Jobs > Career guide

กูรูที่ปรึกษาแนวดิจิทัลชี้ทาง ทำงานทางไกล(ยังไง)ให้เวิร์ค

 

     เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปในทุกๆ วัน นอกจากจะสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจแบบใหม่ๆ ความก้าวหน้ายังมีผลต่อวิถีชีวิตของผู้ปฏิบัติงานด้วย หนึ่งในนั้นคือการทำงานทางไกล ที่ช่วยยืดหยุ่นเวลาและลักษณะการทำงานให้เข้ากับการใช้ชีวิตด้านอื่น

     อย่างไรก็ดี องค์กรหลายแห่งยังไม่สามารถปรับตัวเข้ากับแนวทางนี้ได้อย่างราบรื่นหรือสร้างประโยชน์จากวิธีการดังกล่าวได้ 100% ฮีเธอร์ ฮูห์แมน ประธานบริษัทที่ปรึกษาด้านการประชาสัมพันธ์เชิงดิจิทัลและการตลาด Come Recommended ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีในการจัดการทรัพยากรมนุษย์ พบว่า คนส่วนใหญ่ทั่วไปก็ยังไม่รู้ว่าจะจัดการเรื่องนี้เองยังไง หากได้รับมอบหมายให้ทำงานร่วมกับสำนักงานผ่านการเชื่อมต่อทางเครือข่ายจากภายนอก

     จากผลสำรวจปีที่ผ่านมาโดย Flex+Strategy Group พบว่า 52% จากพนักงานในกลุ่มสำรวจ ไม่เคยฝึกการทำงานเชิงยืดหยุ่น 8 ใน 10 ของพนักงานไม่เคยใช้ซอฟท์แวร์ในการจัดการโปรเจกต์งานเป็นกลุ่ม แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น ฮูห์แมน เผยว่า องค์กรหรือนายจ้างสามารถช่วยผลักดันให้การ ทำงานทางไกลประสบความสำเร็จและมีประสิทธิผล ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

1. กำหนดตัวกลางการสื่อสารและแนะนำการใช้งานที่ถูกต้อง

การสื่อสารของคนที่อยู่ต่างสถานที่กันเป็นอุปสรรคสำาคัญที่สุดของการทำางาน และการสื่อสารโดยไม่เห็น หน้าค่าตาหรือได้ยินน้ำาเสียงของอีกฝ่ายก็อาจส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดได้สูง อย่างไรก็ดี การสื่อสารในลักษณะดังกล่าว อาทิ พวกอีเมล แอพพลิเคชั่นแชท เป็นสิ่งที่จำเป็น หัวหน้าจึงควรกำหนดสื่อกลางของ การสื่อสารอย่างชัดเจน รวมถึงเวลาการใช้งาน เช่น ควรอ่านหรือตอบอีเมลภายในระยะเวลาเท่าไร เพื่อไม่สร้างแรงกดดันระหว่างการสื่อสาร และคนทำงานก็ใช้เวลาทำงานส่วนอื่นได้ ก่อนหน้าที่จะเริ่มปฏิบัติงานจริง ควรมีการฝึกการใช้เครื่องมือ เพื่อสร้างความเข้าใจและทดลองหาช่องทางที่ดีที่สุดสำหรับการสื่อสารระหว่างกันด้วย

2. พัฒนาความร่วมมือระหว่างผู้ร่วมงาน

ความสัมพันธ์ที่พนักงานพัฒนาขึ้นในที่ทำงานมีผลอย่างมากต่อผลลัพธ์และความพอใจในงาน ดังนั้น เมื่อพนักงานเริ่มใช้เวลาทำงานนอกสำนักงาน ย่อมเริ่มมีผลต่อความสัมพันธ์ที่อาจไม่ใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมงาน วิธีการแก้ไขที่ฮูห์แมน แนะนำคือ การหาเวลาแนะนำทีมงานทั้งหมดให้รู้จักกัน จัดประชุมที่จะได้เห็นหน้ากันแบบตัวจริง จัดอบรมการสร้างทีมงานที่ต้องทำงานผ่านเครื่องมือการสื่อสาร หรือหากเป็นไปได้ สร้างห้องแชทที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องงานแยกต่างหาก ให้ความรู้สึก เสมือนเวลาที่พนักงานพักคุยกันในห้องทานกาแฟตามสำนักงาน

3. ส่งเสริมการสร้างสมดุลชีวิตระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว

ปัญหาใหญ่ที่ผู้บริหารหญิงสังเกตเห็นชัดเจนคือ เมื่อพนักงานทำงานจากข้างนอกสำนักงานหรือจากบ้าน พวกเขาจะรู้สึกเหมือนต้องพร้อมทำงานตลอดเวลา จนไม่รู้ว่า จะพักเมื่อไรหรือไม่เห็นข้อดีของการทำงานจากบ้านเลย หากเป็นไปได้หัวหน้าควรบอกกับลูกน้องอย่างชัดเจนถึงชั่วโมงการทำงาน การพักเบรก ซึ่งนอกจากจะเป็นการหาประโยชน์จากการทำงานที่บ้านให้ได้สูงสุดแล้ว ยังเป็นการแสดงให้เห็นว่า องค์กรให้ความสำคัญกับชีวิตโดยรวมของบุคลากรด้วย