บอกเลยเวลาผ่านไปเร็วมาก และช่วงเวลาที่คุณจะเก็บเกี่ยวทุกสิ่งได้ดีที่สุด คือตอนช่วงอายุยี่สิบต้นๆ จนไปถึงยี่สิบปลายๆ นี่ล่ะ ช่วงนี้ผู้หญิงจะสดที่สุด มีพลังเยอะที่สุด กล้าคิด กล้าทำที่สุด เซ็กซ์ไดรฟ์สุดที่สุด และยังเอนจอย ไลฟ์ที่สุดด้วย เพราะฉะนั้นอย่าพลาดเด็ดขาด ใครกำลังนั่งนอยด์กับอะไร หรือรอโทรศัพท์ใคร เสียเวลาๆๆๆๆๆ กลับมาโฟกันที่ความเจ๋งของตัวเอง แล้วลุยแหลกเลย ขอเน้นนะว่าต้องลุยแหลกเท่านั้น เชื่อสิ! ไม่เกิน 3 ปี คุณจะได้ทุกอย่างที่ฝัน แล้วพอถึงตอนอายุสัก 35 คุณก็สวยๆ เชิดๆ แบบบอกกับตัวเองได้ว่า “am done, now I’ll do what only I want” ฉันทำสำเร็จแล้ว ต่อไปนี้คือกำไร ฉันขอทำที่ฉันอยากทำจริงๆ แล้วนะ ได้เลยล่ะ ฝึกตัวเองด่วนถ้าคุณยังมีนิสัยแบบนี้

     1. คิดแล้วไม่ทำสักที จนลืม!

         อาการนี้เป็นท้อปลิสท์นิสัยของคนที่ไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จในชีวิตเท่าไหร่ คิดง่ายๆ เลยคือ ถ้ามัวแต่นั่งคิด โปรเจ็คท์มากมาย ฉันจะๆๆๆ โน่นนี่นั่น หรือคุยฟุ้งกับเพื่อนตลอด แต่….ไม่เคยลุกไปทำ พอจะทำก็จะมีเสียงว่า “อูยยย ไม่มั้ง จะดีเหรอ?” อุปสรรคมาเต็ม แล้วก็ต้องจบลงประโยคว่า “ช่างมันแล้วกัน เดี๋ยวค่อยว่ากัน” ท่องไว้เลยนะสาวๆ “ทำเท่านั้น ถึงจะเกิดผล” ทำไปเถอะ เดี๋ยวค่อยๆ ปรับๆ ไปเอง แล้วทุกสิ่งจะมาแน่นอน!

     2. ไม่สนใจอนาคตจนเกินไป

         โอเคๆ เราเข้าใจในว่าเราต้องอยู่กับปัจจุบัน อนาคตในที่นี้เราหมายความว่า “ความมุ่งมั่นว่า เรามั่นใจว่า เราต้องทำสิ่งนี้สำเร็จสิ” ง่ายๆ เลยคือมีจุดหมายในชีวิต เช่น ฉันรู้แล้วว่าฉันเป็นคนแต่งหน้าได้สวยมาก เอาล่ะ! ขอมุ่งเลยว่า จะไปเรียนแต่งหน้า แล้วกลับมาเป็นเมคอัพ อาร์ติสท์ท้อป เท็นให้ได้ อะไรแบบนี้ ทั้งบิล เกตส์ สตีฟ จ็อบส์ และคนที่ททำอะไรสำเร็จระดับโลก เหล่านี้ไม่เคยเลิกล้มอะไรง่ายๆ พวกเขามีพลังใจที่เหมือนกันคือ “ไม่หยุด จนกว่าจะได้มา”

     3. ลองแล้วไม่ได้ เลิกเลยดีกว่า

         อันนี้เป็นเรื่องที่เห็นกันบ่อยๆ เลย คือสาวๆ ทะเวนตี้ ซัมธิงส์อาจเกิดมาในยุคที่มีทางเลือกรอบด้าน ทุกอย่างดูมากมาย และดูดีไปหมด เลยไม่จำเป็นต้องพยายามอะไรมาก เวลาได้ลองทำอะไรแล้ว บางทีเลยรู้สึกว่า “ยากไปมั้ง ไม่เอาดีกว่า เสียเวลา” ความจริงแล้วทุกความสำเร็จ ต้องใช้เวลาอย่างหนัก แม้กระทั่งจะได้ผู้ชายดีๆ เรายังต้องกล่อมเกลาตัวเองหลายปีเลย ส่วนใหญ่คนที่ทำอะไรสำเร็จจริงๆ บอกเลย 10 ปี กันทั้งนั้น อาจดูนาน แต่ความจริงไม่นานหรอกถ้าระหว่างที่เราพยายามทำ เราเอนจอยไปด้วยน่ะ อันนี้รวมถึงเรื่องความรักด้วยเลยนะ

     4. ใครจะเป็นยังไง ฉันไม่สนหรอก

         หืมมมม บอกเลยว่ายุคนี้บางครั้งเก่งกับเก่งมาเจอกัน มันเฉือนกันก็ตรงนี้ล่ะ คือเรื่องของน้ำใจ มิตรภาพ ความอ่อนโยน ใครมีคนนั้นจะได้ทุกสิ่ง! เพราะบางทีต่อให้เราตำแหน่งงานสูง เงินเดือนเพียบ ทำอะไรก็สำเร็จ แต่สุดท้ายหันมามองรอบตัว เราไม่มีใครที่จริงใจกับเราเลย แล้วชีวิตที่สร้างมาทั้งหมด จะเพื่ออะไรกัน? ระหว่างสร้างอะไรให้ตัวเอง แนะนำเลยว่าใส่ใจคนรอบข้างเสมอๆ คนนี้ดีกับเรา อย่าลืมทำอะไรดีๆ ให้เขากลับ เรื่องบางเรื่องช่างมันเถอะ อย่าไปจับผิดใครเลย หรือต่อให้เขาทำไม่ดีกับเรา ถ้าปล่อยได้ ก็ลืมไป เพราะถ้าเราจะบี้ให้ทุกคนที่ไม่ดีกับเรา ต้องตายคามือเรา เรานั่นล่ะจะเครียดเอง และหน้าแก่ และนิสัยแข็งขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดเอง

     5. ไม่เคยเชื่อรุ่นพี่

         สำคัญเลยสาวๆ ยุคนี้ต้องระวังนิด คือพอพลังสดของอายุทะเวนตี้แบบนี้มาทีไร เราก็มักจะคิดว่า “ฉันคิดถูก” แล้วลืมมองไปว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเรา คือหัวหน้าที่ทำมาก่อนเราเป็นสิบปีนี่นา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะคิดไม่ได้ ให้เอาสิ่งที่คนอื่น(ที่เขาทำมามากกว่าเรา) มาคิดตามไปด้วยว่าเวิร์คมั้ย ถ้ายังคิดอะไรไม่ออก เชื่อเขาเถอะ ทำไป! แล้วเราค่อยๆ หาเวย์ของตัวเองไปเรื่อยๆ หาวิธีดีลไปเรื่อยๆ เราจะเป็นผู้หญิงกลมกล่อม รับฟัง อ่อนโยน และก็มีความคิดเป็นของตัวเองเลยล่ะ อันนี้สำคัญมากในเรื่องความรักเหมือนกัน รู้ไปหมดทุกอย่าง จะทำให้ดูเป็นผู้หญิงมั่นไป เยอะไป ปล่อยๆ ชิลล์ๆ จะดูน่าเข้าหามากกว่ามากเลย

     6. เลิฟทุกงานดราม่า

         มีผู้หญิงที่ไหน งานเม้าท์ต้องมา! อันนี้ล่ะสุดยอดแห่งการพรากเอารอยหยักในสมองไป แค่ประโยคเดียวระคายหู ก็เอาไปเม้าท์กับเพื่อนแล้ว ทำให้เพื่อนมองคนอื่นเพี้ยนไปอีก หนักเข้ามีแบ่งเป็นพวกเธอ พวกชั้นเลย ยากเลยที่นี้เวลาต้องทำงานเป็นทีม หรือเราต้องเป็นหัวหน้าขึ้นมา งานเข้าแน่! เรื่องเม้าท์นี่ต้องตัดใจจริงๆ และบอกตัวเองทุกครั้งว่า “หยุด” เมื่อได้ยินใครพูดไม่ดีของเรา อาจเหี่ยวๆบ้างนะ แต่ต้องหยุดความคิด ความรู้สึกให้เร็ว เดี๋ยวมันก็ผ่านไป แล้วเอาเวลามารีบทำต่อดีกว่า และไม่ต้องไปจ้องหาอะไรไม่ดีในตัวคนอื่นเหมือนกัน ถ้าไม่ดีแล้วกระทบกับงาน หรือชีวิตคู่

     7. ความรู้ใหม่ๆ ไม่เอาอะ ขี้เกียจเรียนรู้

         สิ่งนี้จะทำให้คุณไม่ขับเคลื่อนให้ทันโลก ยุคนี้เราปฏิเสธไม่ได้อีกแล้วว่า คนมีสกิลเยอะ คือคนรอบรู้ คนรอบรู้คือคนทันโลก และคนทันโลกคือคนที่จะอยู่ได้นานที่สุด ต่อไปนี้เลยนะ..ถ้าบริษัทส่งคอร์สอะไรให้เทรน รับเลย หรือใจอยากเรียนอะไรเพิ่ม ลงเรียนด่วน อย่าได้สนเรื่องเงินมาก คุ้มที่สุดแล้วลงทุนกับความฉลาด กับเรื่องความรักก็ด้วย ถ้าคนรักชวนเรียนดำน้ำ เข้าคอร์สเตรียมปีนเขา อะไรแบบนี้อาจดูเหมือนยากไป หรือกลัวโน่นนี่ จะบอกว่าทำเถอะ ทุกสิ่งดีทั้งนั้น อย่างน้อยเราก็ได้เอาชนะตัวเองไปอีกเรื่อง