โดนลูกน้องตั้งสเตตัสด่าลับหลัง
- 28 มิถุนายน 2559 เวลา 17:47 น.
- รายงานข่าวโดย: Post Today | 2,791 viewed
โลกของการทำงานย่อมมีความขัดแย้งเกิดขึ้นเป็นธรรมดา หันหน้ามาพูดคุยปรับความเข้าใจกัน ถือเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ดีที่สุด ในการยุติปัญหาเพื่อให้งานเดินหน้าต่อไป แต่น่าตลกตรงที่ว่าใครหลายคนกลับเลือกที่จะหันหลัง หมางเมินใส่กัน และนินทาก่นด่าไฟแลบ ทั้งลับหลัง แม้กระทั่งในเฟซบุ๊ก!
ตัวอย่างสถานการณ์
เมธาวี ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ปะทะคารมกับลูกน้องตัวแสบกลางที่ประชุม เนื่องจากความคิดเห็นไม่ตรงกัน (ทุกคนต่างรู้ว่าทั้งคู่ไม่กินเส้นกันมานานแล้ว) เธอเลือกที่จะเงียบ ขณะเดียวกันก็พยายามหาทางปรับความเข้าใจกับคู่กรณี ทว่าอีกฝ่ายตีตัวออกห่าง แถมยังนำเรื่องดังกล่าวไปด่าลับหลัง อีกทั้งยังตั้งสเตตัสเฟซบุ๊กด่าประจานอย่างสาดเสียเทเสีย ...เมธาวีจะจัดการปัญหานี้อย่างไร ?
ทางออก
การทำงานร่วมกับคนที่ไม่ชอบหน้ากันบอกได้คำเดียวว่านรกชัดๆ แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพ เราจึงต้องวางเรื่องส่วนตัวไว้ แล้วเอาการงานเป็นที่ตั้ง แม้จะสร้างความลำบากใจแสนสาหัสก็ตาม นี่คือวิธีปฏิบัติตนในการอยู่ร่วมกับคนที่ไม่ชอบหน้าเรา หรือเราไม่ชอบหน้าเขา อาจจะช่วยให้เขาลดความอคติ และทำให้หันมาชอบหน้าเราในท้ายที่สุดก็ได้ ยิ้มเข้าไว้ช่วงแรกมันอาจจะฝืดๆ อยู่บ้าง หากเราต้องมาแจกยิ้มให้กับคนที่ไม่ชอบหน้าเรา แต่จงยิ้มเข้าไว้ แม้เรายิ้มให้เขาไปแล้วเขาอาจจะไม่ยิ้มตอบก็อย่าเสียความมั่นใจ เพราะสิ่งที่เราทำไม่ได้เป็นพิษเป็นภัย
รู้จักควบคุมอารมณ์บางครั้งการที่ต้องร่วมงานกับคนที่เขาไม่ชอบเรา อาจทำให้เราหงุดหงิดหัวเสีย อาจจะโดนแกล้ง ถูกยั่วยุถูกแสดงท่าทีที่ไม่น่ารัก ต้องควบคุมอารมณ์ของเราให้ได้อย่าไปเดือดร้อนเต้นตามเขาเพราะนั่นหมายถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นทั้งต่องานและต่อความ น่าเชื่อถือของเราท่องไว้ในใจว่าห้ามใจร้อนผลีผลาม อย่าตบะแตกไปเสียก่อน เพราะจะมีแต่เจ๊งกับเจ๊งเท่านั้น
คุยกับผู้ร่วมงานที่ไม่ชอบคุณไปตรงๆ เดินเข้าไปหาแล้วคุยกันอย่างเปิดอกว่ามีอะไรที่เขารู้สึกไม่สบายใจกับคุณหรือไม่ หากมีสิ่งใดที่ทำให้เขารู้สึกไม่ชอบใจจะได้มีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้ร่วมงานกันได้อย่างราบรื่นซึ่งส่วนใหญ่ก็คงตอบว่าไม่มี แต่อย่างน้อยก็เป็นการดีตรงที่เขาก็ได้เห็นถึงความจริงใจของเรา การเป็นคนเปิดใจอย่างตรงไปตรงมาของเรา อาจจะทำให้ความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกลับดีขึ้นได้
ขจัดอคติออกไปเมื่อเรารู้ว่าใครไม่ชอบเรา ก็มักจะมีอคติหรือรู้สึกไม่ชอบเขาคนนั้นขึ้นบ้างเช่นกัน ดังนั้นให้เราตัดอคติของเราออกไปให้ได้ อย่ามีความคิดไม่มีเหตุผลต่อคนอื่นเหมือนที่คนอื่นไม่มีเหตุผลกับเรา คำนึงถึงผลของงานที่ต้องทำเป็นหลัก
คำพระท่านว่าถ้าเขาทำเลวใส่ เราก็อย่าทำตัวเลวกลับไป เพราะจะได้ชื่อว่าเลวเหมือนกันหากเป็นเช่นนั้นจงใช้ความดีเอาชนะความเลว ใช้ธรรมะเอาชนะอธรรมดีกว่าค่ะ