Bangkok post> Jobs > Career guide

เช็คด่วน!! พฤติกรรมที่ทำให้ป่วยบ่อย

  • 19 กันยายน 2560 เวลา 18:33 น.
  • รายงานข่าวโดย: CLEO Thailand | 1 viewed

 

     นอกจากนอนดึก ตื่นสาย กินแต่จังก์ฟู้ด ยังมีเรื่องใกล้ตัวอีกหลายอย่างที่เราทำเผลอทำจนติดเป็นนิสัย มารู้ตัวอีกทีเราเอ๊ะอะก็ไม่สบาย หรือเบาะๆ ก็แค่พุ่งป่อง แต่ถ้าแย่หน่อยก็อาจลามกลายเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกได้เลยนะ

     1. ปล่อยให้ตัวเองน้ำหนักขึ้นไปเรื่อยๆ  ยิ่งปล่อยให้ตัวเองกินอาหารตามใจปากมากเท่าไหร่ ไม่แคร์ว่าหนุ่มๆ ว่าจะมองหุ่นเราก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ที่อันตรายคือน้ำหนักตัวที่มากขึ้นก็เท่ากับเรามีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกมากขึ้นอีก 17% เพราะเซลล์ไขมันจะผลิตเอนไซม์ ฮอร์โมนและโปรตีนที่พร้อมแปรงร่างเป็นเซลล์มะเร็งนั่นเอง และที่มีโอกาสเป็นมากที่สุดก็คือมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกนั่นแหละ

     2. กินแต่ยาคุมมาหลายปี  คนที่กินยาคุมนานๆ ติดต่อกันรู้มั้ยว่าจะทำให้ขาดวิตามินและแร่ธาตุหลายอย่างด้วย แล้วก็ตามมาด้วยความเสี่ยงที่อาจทำให้เป็นโรคหัวใจ เส้นเลือดสมองแตก เส้นเลือดอุดตันด้วยลิ่มเลือด แม้แต่การขาดวิตามินบีหลายๆ ตัวอย่าง วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 วิตามินบี 9 ก็ทำให้กลายเป็นโรคซึมเศร้าได้ง่ายๆ แถมตอนที่เลิกกินยาคุมแล้วยังทำให้วิตามินดีในร่างกายลดลง และมีความเสี่ยงว่าจะลดลงต่ำมาก อย่างหลังนี่ยังพอแก้ได้ด้วยการออกไปยืนรับแดดรับพลังวิตามินดีจากธรรมชาติบ้าง แค่วันละไม่กี่นาทีช่วงเช้าตรู่หรือหลังสี่ห้าโมงเย็นไปแล้วก็ไม่อันตรายหรอก แค่อย่าลืมทาครีมกันแดดก็พอ

     3. ตื่นสายทุกวัน  ใครที่ยังติดนิสัยตื่นนอนเที่ยง คิดว่าชิลล์ดี รู้รึเปล่าว่าจะกลายเป็นคนที่เครียดไม่รู้ตัว ต่างกับคนที่ตื่นเช้าเป็นประจำที่จะช่วยลดฮอร์โมนคอร์ติซอลที่เป็นฮอร์โมนแห่งความเครียดให้น้อยลงหลังจากตื่นนอนไปแล้วสัก 45 นาที ไม่เชื่อลองสังเกตตัวเองดูสิว่า เวลานั้นเราจะรู้สึกรีแลกซ์ขึ้นเรื่อยๆปล.คนที่มีฮอร์โมนคอร์ติซอลมากๆ ก็จะมีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจสูงมากเท่านั้นด้วย

     4. ทั้งปีอ่านหนังสือไม่เกิน 2 เล่ม  ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อว่า ถ้าใครไม่อยากตายเร็ว มีงานวิจัยยืนยันว่าต้องอ่านหนังสือ!!!!!! แค่วันละ 30 นาทีหรืออาทิตย์ละ 3.30 ชั่วโมง ก็ช่วยลดความเสี่ยงของการตายในช่วง 12 ปีลงได้ถึง 23% เพราะเวลาที่เราอ่านหนังสือสมองของเราจะได้รับการบริหารด้วยสาระดีๆ จากการอ่านที่จะช่วยบูสเซลล์สมองให้เชื่อมต่อกันได้ดี

     5. เผลอหลับไปทั้งๆ ที่ใส่คอนแท็คเลนส์  ใครทำแบบนี้บ่อยๆ รู้มั้ยว่ามีความเสี่ยงสูงที่ตาเราจะอักเสบติดเชื้อมากขึ้น 8 เท่า เพราะระหว่างวันที่เราใส่คอนแท็คเลนส์จะถูกเคลือบไปด้วยแบคทีเรียในอากาศ บวกกับตอนเราใส่นอน พอหลับตาก็จะขาดออกซิเจนและการเคลื่อนไหว เลยทำให้เป็นสาเหตุที่มีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายๆ เลย คราวหน้าก่อนนอนถอดคอนแท็คเลนส์ก่อนเถอะ

     6. อยู่ออฟฟิศนั่งทำงานท่าเดิมเป็นชั่วโมงๆ  คนที่นั่งทำงานท่าเดิมนานๆ แทบไม่ขยับหรือใครที่เดินทางบ่อยใช้ชีวิตอยู่บนเครื่องบินนานๆ จะขยับตัวไปไหนก็แทบไม่ได้ นอกจากจะเป็นออฟฟิศซินโดรมปวดหลังปวดไหล่ปวดขาแล้ว ร่างกายยังพร้อมพังตามมาอีกเพียบ ทางที่ดีสุดก็คือ ต้องรู้จักขยับแข้งขยับขาใรห้มีการเคลื่อนไหวบ่อยๆ ง่ายๆ แค่กระดิกนิ้วเท้า ขยับข้อเท้าขึ้นๆ ลงๆ หมุนเท้าไปมา แค่ไม่กี่นาทีทุกชั่วโมง วิธีนี้ถึงจะนั่งท่าเดิม แต่ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดีขึ้นและลดความเสี่ยงของเส้นเลือดที่จะจับตัวเป็นลิ่มเลือด และถ้ายังเป็นแบบนั้นไปอีกนานๆ ก็จะมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคหัวใจตามมาในที่สุดด้วย

     7. กินแต่อาหารนอกบ้าน  นอกจากเรื่องความสะอาดหลังครัวที่เราไม่มีทางรู้เลยว่า อาหารนอกบ้านที่เรากินเข้าไปนั้นผ่านอะไรมาบ้าง เช่น ล้างผักสะอาดมั้ย น้ำมันใช้ซ้ำรึเปล่า ฯลฯ ยังทำให้เรากลายเป็นโรคเบาหวานไม่รู้ตัวด้วย คนที่ทำอาหารเอง 2-7 มื้อต่ออาทิตย์ โดยเฉพาะมื้อเย็นจะช่วยลดโอกาสการเกิดโรคเบาหวานลง 15% ยิ่งถ้าแพ็คอาหารกลางวันทำเองไปกินเองด้วยได้ยิ่งเริ่ด

     8. ออกกำลังกายหลังเลิกงาน  เปลี่ยนความคิดตัวเองใหม่ดีกว่า แทนที่จะไปออกกำลังกายหลังเลิกงาน เปลี่ยนมาเป็นออกกำลังกายหลังตื่นนอนตอนเช้า จะช่วยบูสอัพอารมณ์ความรู้สึกเราให้เป็นคนอารมณ์ดีขึ้น 30% เพราะมีงานวิจัยบอกว่าการที่เราขุดตัวเองขึ้นมาจากที่นอนแล้วทำอะไรยากๆ อย่างการออกกำลังกาย นั่นก็เท่ากับว่าเราได้ฝึกตัวเองให้เริ่มต้นทำอะไรยากๆ ตั้งแต่เช้า หลังจากนั้นอะไรที่ผ่านเข้ามาก็จะรู้สึกชิลไปหมดแล้ว

     9. กินอาหารอะไรก็แพ้อยู่นั่นแหละ  ใครแพ้อาหารบ่อยๆ ต้องกินไฟเบอร์เยอะๆ เพราะไฟเบอร์จะดีต่อแบคทีเรียในกระเพาะและลำไส้ของเรา และยังดีต่อระบบภูมิคุ้มกันด้วย ช่วยให้แข็งแรง ยิ่งกินอาหารที่มีไฟเบอร์บ่อยๆ ทุกมื้อ นอกจากขับถ่ายดีแล้ว ยังช่วยให้กระเพาะแข็งแรงไม่รู้สึกไวหรือแพ้เวลาเจออาหารแปลกๆ ด้วย