เทรนด์ใหม่ๆ แก้ไมเกรน
- 24 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา 15:24 น.
- รายงานข่าวโดย: นสพ. M2F ฉบับวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2560 | 1 viewed
“ไมเกรน” ไม่ใช่แค่อาการปวดศีรษะที่ควรมองข้ามอีกต่อไป เพราะนอกจากจะเป็นอาการที่พบได้บ่อยในคนทุกเพศทุกวัยแล้ว บางคนมีอาการปวดบ่อยครั้งขึ้น รุนแรงขึ้น และยาวนานขึ้น จนกลายเป็นอาการปวดหัวเรื้อรัง ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น นอนไม่หลับ ขับรถ หรือทำงานไม่ได้
นพ.สมบัติ มุ่งทวีพงษา อายุรแพทย์โรคหลอดเลือดสมองและภาวะวิกฤตทางสมอง ศูนย์ระบบประสาทและสมอง รพ.พญาไท 2 อินเตอร์เนชั่นแนล ให้ความรู้เรื่องความรุนแรงของอาการปวดศีรษะเรื้อรังว่า แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ
1. การปวดศีรษะแบบที่เป็นอันตราย เช่น มีพยาธิสภาพในสมองเส้นเลือดโป่งพอง ถ้าหากแตกก็มีโอกาสเสียชีวิตสูง ความดันโลหิตสูงมากๆ ก็มีโอกาสเส้นเลือดในสมองแตกพิการ หรือเสียชีวิตได้ หากมีอาการปวดหัวเรื้อรังดังต่อไปนี้ควรไปพบแพทย์ทันที ได้แก่ ปวดศีรษะรุนแรงทันทีทันใดแบบไม่เคยปวดมาก่อน ปวดศีรษะพร้อมมีอาการอ่อนแรง และชาแขนขาครึ่งซีกร่วมด้วย ปวดศีรษะร่วมกับมีไข้และคอแข็ง ปวดศีรษะร่วมกับบุคลิกภาพเปลี่ยนและสับสน
2. การปวดศีรษะแบบที่ไม่ก่ออันตราย แต่อาจรบกวนชีวิตประจำวัน โดยมีสาเหตุมาจากปัญหาการทำงาน ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาครอบครัว ที่ก่อให้เกิดความเครียด ต้องใช้ความคิด นั่งทำงานนานๆ แสงสว่างไม่เพียงพอ หรือไม่สม่ำเสมอ ทำให้เกิดความตึงตัวของกล้ามเนื้อ บางรายที่ปวดไมเกรนอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย จึงควรไปพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาแนะนำการดูแลตัวเองได้ถูกต้อง
สำหรับการป้องกันการปวดศีรษะไมเกรนมีมากมายหลายวิธี เช่น การหลีกเลี่ยงตัวกระตุ้น กินยาป้องกัน ออกกำลังกาย ฉีดยาลดการทำงานของเส้นประสาท และการฉีดยารักษาไมเกรนด้วยโบท็อกซ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีทางการแพทย์ด้านความงามที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี โบท็อกซ์เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ป่วยที่ปวดไมเกรนเรื้อรัง ซึ่งไม่ตอบสนองต่อการใช้ยาป้องกัน หรือล้มเหลวจากวิธีการป้องกันการปวดศีรษะอื่นๆ