Bangkok post> Jobs > Career guide

5 ขั้นตอนการจัดการกับคนก้าวร้าว


     เรานั้นต้องเรียนรู้วิธีที่จะจัดการกับคนก้าวร้าวในชีวิตของเรา ความก้าวร้าวนั้นเกิดขึ้นเมื่อคนหนึ่งรู้สึกว่าจำเป็นที่จะต้องปกป้องผลประโยชน์ของพวกเขา หรือต้องการต่อสู้เพื่อบางสิ่งบางอย่าง จนเกิดเป็นความขัดแย้งและการรุกรานขึ้น

ก่อนอื่นเลย... คุณสามารถรับรู้ถึงการรุกรานหรือการเผชิญกับคนก้าวร้าว ถ้า...

“พวกเขาขัดจังหวะคุณ หรือพูดคุยกันเสียงดัง ไม่ได้นึกถึงเหตุผลและจุดประสงค์ของคุณ หรือแม้แต่จะให้เหตุผลหรือคำแนะนำใดๆ”

“นอกจากนี้ ยังทำให้คุณรู้สึกว่ากำลังถูกรุกรานเกินขอบเขตของคุณ การโต้ตอบหรือการสนทนา มักนำไปสู่ความตึงเครียด คุณรู้สึกหมดพลังและอารมณ์ หลังจากปฏิสัมพันธ์กับคนพวกนี้”

ลองทำตาม 5 ขั้นตอน “การมีศิลปะการจัดการกับความรุนแรง” ตามนี้ดูนะคะ

     1. ใจเย็นเข้าไว้ค่ะ

ฟังดูอึดอัดไปหน่อย แต่คุณจำเป็นต้องทำให้ตัวเองใจเย็นเข้าไว้ การดับไฟด้วยไฟนั้นมักจะนำไปสู่ความโวยวายในที่สุด และเป็นตัวกระตุ้นความก้าวร้าวของพวกเขาอีกด้วย เคล็ดลับในการทำตัวเองให้สงบในขณะที่ข้างในของเรานั้นเต็มไปด้วยความโกรธ คือ

- หายใจเข้าลึกๆ

- ลุกขึ้นไปหยิบน้ำหรือโทรศัพท์ หรือลุกจากตรงนั้นไปหาสิ่งอื่น (แบบปกตินะคะ) เพื่อเป็นการกระจายความโกรธของคุณ

- คิดถึงความเสียหายและความเสียใจของคุณที่จะตามมา หลังจากที่คุณทำอะไรไปด้วยความโกรธ

     2. แนะนำพวกเขา

แนะนำให้เขาเห็นว่าคนอื่นๆ (ที่ไม่เกี่ยวข้อง) อาจถูกรบกวนหรือรุกราน โดยแนะนำพวกเขาด้วยความเห็นอกเห็นใจแต่ไม่ใช่การก่อกวน เช่น

“ไม่จำเป็นต้องเครียด เราจะแก้ปัญหาได้ หรือเราจะหาวิธีแก้ไขจนได้...”

“ลดเสียงลงนิดนึงนะ ฉันเข้าใจว่า...”

“ฉันขอโทษ, ฉันมีบางสิ่งบางอย่างที่ฉันเชื่อว่ามันสำคัญและอาจจะช่วยได้...”

“ฉันเข้าใจในความเครียดนี้...”

หรือคุณอาจจะมีประโยคอื่นที่สามารถเรียกสติพวกเขาได้ ถ้าทำแบบนี้ในช่วงต้นจะช่วยทำให้อีกฝ่ายมีสติและได้ยินสิ่งที่คุณพูดมากขึ้น

     3. เอาใจเขามาใส่ใจเรา

ลองนึกภาพถ้าคุณอยู่ในสถานการณ์หรืออารมณ์เดียวกับเขา คุณจะเข้าใจถึงความก้าวร้าวนั้น มันเป็นปฏิกิริยาธรรมชาติของคนเพื่อปกป้องหรือเรียกร้องอะไรบางสิ่ง ซึ่งสามารถคิดตามนี้ได้...

“อะไรที่เขานั้นสูญเสีย (เวลา เงิน เพื่อนและครอบครัว สถานะ ชื่อเสียง ฯลฯ)”

“คุณจะรู้สึกอย่างไรถ้าเจอเหตุการณ์เดียวกัน?”

“มีบางสิ่งเกิดขึ้นในชีวิตของพวกเขา ที่ทำให้อารมณ์แปรปรวนและฉุนเฉียวได้อย่างง่ายดาย”

     4. มีความกล้าแสดงออก

อาจจะฟังดูขัดแย้งกับเบื้องต้น แต่คุณสามารถแสดงความเห็นอกเห็นใจไปพร้อมๆ กับการยืนยันในหลักการของคุณได้ การเข้าใจจุดยืนของคนอื่น ไม่ได้แปลว่ายอมให้ใครมาก้าวร้าวใส่ได้

“ใช้เสียงต่ำและคงที่ แสดงถึงความมั่นใจ ทำให้คนอื่นทำเสียงดังใส่คุณ ยืนกรานในความเห็นของคุณและไม่ปล่อยให้ใครพูดแทนคุณ ยังคงเคารพ
ผู้อื่นและแสดงให้เห็นว่าเราก็ต้องการการเคารพกลับมาเช่นกัน”

“ถ้าระดับความก้าวร้าวของเขาเพิ่มขึ้น ตอบสนองและแสดงออกให้เห็นว่าความอดทนของคุณกำลังลดลง”

นี่เป็นวิธีการอย่างหนึ่งที่คุณต้องมีความเป็นมืออาชีพมากๆ เพราะมีเส้นบางๆ กั้นอยู่ในวิธีนี้ นั่นคือการตอบโต้กลับด้วยความมั่นใจ มั่นคง หนักแน่น กับการตอบโต้กลับด้วยความรุนแรง คุณจึงจำเป็นต้องเคารพตัวคุณเองด้วย เลือกคนที่สามารถทำวิธีนี้ได้ ไม่ใช่เลือกทำวิธีนี้กับทุกคนที่ก้าวร้าวใส่คุณนะคะ

     5. มุ่งเน้นไปที่...

หากใครที่เสียการควบคุมจากอารมณ์ของเขาเอง พวกเขาจะสูญเสียสายตาหรือการได้ยินสิ่งอื่นๆ รอบข้างนอกจากสิ่งที่อยู่ในหัวตัวเอง เพราะฉะนั้น คุณต้องโฟกัสไปที่สิ่งสำคัญของการสนทนา หมายความว่าอย่าหลุดประเด็น คุณจะช่วยให้คนอื่นๆ ได้คิดและใช้เหตุผลมากขึ้นอีกด้วย เช่น

“สำคัญที่ว่า...”

“ในเวลาอีกไม่กี่วันข้างหน้า เราจะหวนคิดถึงสถานการณ์นี้และหัวเราะไปกับมัน...”

“พยายามทำให้คนอื่นมีเสียงหัวเราะ เป็นวิธีที่สามารถปลดอาวุธของพวกเขาได้”

     นี่เป็นขั้นตอนขั้นพื้นฐานที่คุณสามารถจัดการในระยะแรกได้ นอกจากนี้ ก็ต้องมีสติให้มากที่สุด จำไว้นะคะ ถ้าเราไม่เริ่มทุกอย่างก็จบ อย่าโต้ตอบเขาแบบเดียวกับที่เขาทำกับเรา เพราะปัญหาจะลุกลามไปกันใหญ่ หรือเจอที่รุนแรงจริงๆ ดิฉันว่าเราควรอยู่ให้ห่างดีกว่าค่ะ เพราะมีแต่เสียพลังงาน เสียสุขภาพจิต จะกลายเป็นตัวเราที่ต้องรับไปเต็มๆ

ข้อมูลบางส่วนจาก brightside.me