Bangkok post> Jobs > Career guide

พัฒนาตัวเองด้วย Self-coaching

  • Published: Sep 9, 2016 10:47
  • Writer: Post Today | 3,118 viewed

     หลายคนคงตั้งใจอยากจะพัฒนาตัวเอง แต่ความตั้งใจนั้นก็ยังคงเป็นแค่ความคิดที่ถูกเก็บไว้ในใจด้วยข้อจำกัดจากภาระผูกพันในชีวิตประจำวัน และเรายังคงเลือกที่จะใช้ชีวิตแต่ละวันในแบบเดิม โดยคาดหวังว่าชีวิตเราจะดีขึ้น

     ความเป็นจริง การพัฒนาตัวเองสามารถเกิดขึ้นได้เพียงเริ่มต้นจากการพัฒนาต่อยอดความคิดของตัวเราเอง โดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า Self-coaching คือการโค้ชตัวเองที่จะทำให้ฟื้นกลับมาควบคุมความคิด และสร้างความเชื่อที่จะไปสู่การกระทำที่ให้ผลลัพธ์ที่ต้องการ โดยเริ่มจากการมองเข้ามาในตัวเองอย่างมีสติ เปิดใจคุยกับตัวเองเพื่อค้นหาสิ่งที่ใช่และดีที่สุด รวมทั้งยอมรับก่อนว่าในตอนนี้ยังไม่ใช่ Version ที่สมบูรณ์แบบ แต่เป็น “Work-in-Progress” ที่พร้อมจะเรียนรู้และเปลี่ยนแปลงไปสู่จุดมุ่งหมายใหม่ที่ดีกว่า

     หากเราโค้ชตัวเองได้ดี จะมองตัวเองได้ชัดว่าจุดแข็งและศักยภาพของตัวเองมีเพียงใด เริ่มตระหนักรู้รูปแบบความคิดและเข้าใจตัวเองมากขึ้นว่าความคิดของเราแบบไหนที่สนับสนุน แบบไหนที่ขัดขวางการกระทำของเรา เพื่อที่จะตัดสินใจเลือกคิดในมุมที่ผลักดันให้เติบโตและพัฒนา มี 3 มิติ ดังนี้

     1. ตั้งคำถามเกี่ยวกับภาพความสำเร็จของการพัฒนาที่ต้องการ (Vision) เช่น เราตั้งใจจะพัฒนาตัวเองในเรื่องอะไร การตั้งเป้าหมายของเราควรท้าทายให้เกิดการพัฒนาจริงๆ แต่ไม่ควรจะยากจนเกินไปจนเราก็ท้อใจตั้งแต่เริ่ม แปลงเป้าหมายให้เป็นเป้าหมายย่อยๆ ต่อกันเป็นเส้นทางการเติบโตแล้วค่อยๆ ทำให้สำเร็จไปทีละเป้าหมาย เป็นวิธีการที่จะสร้างกำลังใจให้อยากทำจนสำเร็จ เช่น อยากสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาติได้ เป้าหมายย่อยของเราอาจจะเป็น “สามารถฟังและเข้าใจสิ่งที่ชาวต่างชาติพูดกับเราให้ได้ภายใน 3 เดือนก่อน”

     ภาพความสำเร็จเมื่อเราทำได้ตามเป้าหมายแล้วเป็นอย่างไร หลักการนี้เรียกว่า Visualization ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในแวดวงโค้ชชิ่งว่าจะช่วยให้เรานำพลังแห่งจินตนาการมาผลักดันให้เกิดผลลัพธ์ได้ กล่าวคือให้ลองนึกถึงภาพในวันที่เราทำเป้าหมายสำเร็จว่าเห็นตัวเรากำลังทำอะไร กับใคร ที่ไหน เมื่อไร เมื่อทำได้แล้วจะมีคนพูดถึงเราว่าอย่างไร เช่น จินตนาการว่าในภาพความสำเร็จนั้นว่าตัวเรากำลังฟังเพื่อนชาวต่างชาติที่ทำงานพูด แล้วเราเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาสื่อสารอะไรและเจ้านายก็เดินเข้ามาชื่นชมเรา การทำเช่นนี้เสมือนใส่โปรแกรมความสำเร็จในสมองของเราไว้เพื่อเป็นพลังใจที่จะผลักดันตัวเองให้บรรลุเป้าหมายนั้น

     2. การหาแรงผลักดันที่มีอยู่ในตัวเรา (Passion) เช่น ความเชื่ออะไรที่สนับสนุนให้เราเกิดพลังอยากจะบรรลุเป้าหมายอย่างแท้จริง ความเชื่ออะไรที่ขัดขวางและทำให้ไม่มีพลัง ความเชื่อใหม่อะไรที่ต้องสร้างขึ้นมาหักล้างความเชื่อเดิมเพื่อจุดพลังทางบวกในตัวเรา ภาพความสำเร็จนั้นสำคัญอย่างไร ชีวิตจะเปลี่ยนไปอย่างไรถ้าพัฒนาตัวเองสำเร็จ อะไรเป็นน้ำหล่อเลี้ยงใจในวันที่ท้อและเจออุปสรรคเพื่อกลับมาสู้ใหม่

     3. กำหนดสิ่งที่จะทำเพื่อเคลื่อนตัวไปใกล้กับภาพความสำเร็จนั้น (Action) เช่น เราต้องทำอะไรบ้างเพื่อเป็นก้าวแรกและก้าวต่อไปเพื่อไปถึงภาพสำเร็จ หรือจะทำอะไรในแต่ละวันที่แตกต่างจากเดิมเพื่อช่วยการพัฒนาของเรา การโค้ชตัวเองโดยใช้คำถามข้างต้นเป็นเพียงเทคนิคหนึ่งเท่านั้น จะพัฒนาตัวเองสำเร็จหรือไม่นั้นยังขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเราเองที่จะลงมือทำอย่างจริงจัง